ของแพงดันค่าใช้จ่ายผู้ปกครองพุ่ง 6 หมื่นล้าน สูงสุดรอบ 15 ปี

หอการค้า ชี้ผู้ปกครองรัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่ายรับแต่ของแพงดันยอดใช้จ่าย เปิดเทอม ปี 2567 เงินสะพัด 60,322 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 15 ปี

วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดผลการสำรวจผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมปี 2567 สำรวจจำนวนตัวอย่าง 1,365 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-6 พฤษภาคม 2567 พบว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการเปิดเทอมครั้งนี้ เทียบปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 43.1% เนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น มีจำนวนสินค้าที่ต้องซื้อมากขึ้น และมีจำนวนบุตรที่เริ่มเข้าโรงเรียนเพิ่ม

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมปี 2567 อยู่ที่ 60,322.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% จากปี 2566 ถือว่ามีมูลค่าการใช้จ่ายสูงสุด นับตั้งแต่หอการค้าสำรวจมาในรอบ 15 ปี ส่วนหนึ่งมาจากราคาสินค้าแพงขึ้น ขณะที่ประชาชนก็ยังใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เป็นผลกระทบมาจากงบประมาณปี 2567 เบิกจ่ายล้าช้าไปเกือบ 1 ปี ทำให้รัฐบาลต้องกระตุ้นและเร่งอัดฉีดเศรษฐกิจ

ค่าใช้จ่ายสำหรับการเปิดเทอมปี 2567 เทียบกับปี 2566

สำหรับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเล่าเรียนบุตร พบว่า 59.9% ค่าเทอมเพิ่มขึ้น ขณะที่งบฯค่าหนังสือ ค่าบำรุงโรงเรียน งบฯค่าบำรุงโรงเรียนแรกเข้า งบฯค่าเครื่องเขียน งบฯค่ารองเท้า ถุงเท้า เพิ่มขึ้น เป็นต้น ไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 25,322 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ 19,507 บาท โดยส่วนใหญ่ 46% มองว่าค่าใช้จ่ายเท่าเดิม

นอกจากนี้การสำรวจก็ยังพบว่าผู้ปกครองมีเงินไม่พอใช้ 45.6% ซึ่งแก้ปัญหาโดยการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต การจำนำทรัพย์สิน และการกู้เงินระบบ ทั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากมองว่าเศรษฐกิจแย่ แต่เป็นลักษณะของการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากฝั่งผู้ปกครองที่มีเงินใช้เพียงพอ ระบุว่าต้องใช้เงินออมเพื่อใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม

Advertisment

“การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 43% เหตุผลมาจากความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายมากกว่าความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ เพราะมองจากปริมาณการซื้อชุดนักเรียน ถุงเท้าและรองเท้า พบว่ามีปริมาณการซื้อเท่าเดิม 51.8% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเปิดเทอม มีเพียงหนังสือเรียนที่ซื้อเพิ่ม 34.5% และชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวช้า” ดร.ธนวรรธน์กล่าว

มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม

 5 ข้อเสนอรัฐบาลปรับปรุงการศึกษาไทย

  1. เพิ่มบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะคุณครูให้มีจำนวนที่เหมาะสมในการดูแลนักเรียน
  2. ปรับการเรียนการสอนโดยเฉพาะวิชาแกน เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ให้น่าสนใจ ใช้ในการปฏิบัติควบคู่ทฤษฎี
  3. สร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนเกี่ยวกับสิ่งเสพติดต่าง ๆ รวมทั้งโรงเรียนควรสอดส่องให้เข้มงวด
  4. ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาทั้งอุปกรณ์และการเรียนการสอน ความรู้ ทักษะ ความคิดต่าง ๆ
  5. พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้เท่าทันกับโลก และสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ และสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้รัฐบาลควรปรับปรุงการศึกษาในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาสำคัญมาก เด็กควรจะมีความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ความรู้พื้นฐานไอที และภาษาอังกฤษหรือภาษาจีน พร้อมใช้นโยบายธนาคารหน่วยกิจเพื่อสนับสนุนให้เด็กสามารถเข้าถึงการศึกษาจากที่ใดก็ได้ โดยต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมควรร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ