“ผู้ผลิตเอทานอล” ตัวเปลี่ยนเกม “ราคา” ประมูลข้าว 10 ปี

ข้าวจำนำ 10 ปี

จับตาเปิดซองเสนอราคา 17 มิ.ย. 67 “ผู้ผลิตเอทานอล” ตัวเปลี่ยนเกม “ราคา” ประมูลข้าว 10 ปี ต่ำกว่าคาด

วันที่ 11 มิถุนายน 2567 แหล่งข่าวจากวงการข้าว เปิดเผยว่า บรรยากาศการยื่นซองคุณสมบัติสำหรับผู้สนใจประมูลข้าวสาร จากสต๊อกรัฐบาลที่เก็บรักษามา 10 ปี ปริมาณ 15,000 ตัน เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา มีผู้ยื่นถึง 8 บริษัท คึกคักกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากตอนที่เปิดให้ดูสภาพข้าวที่คลังมีผู้ไปดูเพียงรายเดียว

แต่เมื่อตรวจสอบรายชื่อบริษัท ผู้ยื่นประมูล 8 ราย ปรากฏว่ามีบริษัทหน้าใหม่ในการประมูลข้าว คือ บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ค้าขายพืชผล, หจก.อุบลไบโอเกษตร ผลิตเอทานอล, บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อา.การเกษตร เป็นธุรกิจการทดสอบและวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ, บริษัท สหธัญ จำกัด ธุรกิจโรงสีที่กำแพงแสน และบริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 จำหน่ายพืชผลทางการเกษตร

ส่วนบริษัทในวงการข้าวที่เคยคุ้นหน้าคุ้นตาเข้าร่วมมีเพียง 2 ราย คือ บริษัท ทรัพย์แสงทอง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงสีจากสุพรรณบุรี และบริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ท็อป 5 ของประเทศ เพียงรายเดียวที่เข้าร่วมยื่นซอง

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ในการประมูลรอบนี้มีบริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) เป็น 1 ใน 8 รายด้วย ซึ่งโดยปกติผู้ประกอบการรายนี้มีการทำธุรกิจผลิตเอทานอลและแอลกอฮอล์จากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่ จ.อุบลราชราชธานี

“ความน่าสนใจคือ เหตุผลอะไรที่ผู้ผลิตเอทานอลสนใจซื้อข้าวสารเก่า ทั้งที่ปกติใช้มันสำปะหลัง หรืออย่างอุบลไบโอเอทานอล เพิ่งปรากฏเป็นข่าวว่าชะลอการรับซื้อมันสำปะหลังเมื่อเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพราะกระทรวงพลังงานปรับนโยบายไม่สนับสนุนให้ E20 เป็นนํ้ามันพื้นฐาน จะปรับให้เหลือแค่ E10 เท่านั้น”

ADVERTISMENT

ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการโรงสีข้าวอีกรายตั้งข้อสังเกตว่า ผลจากการเข้าเสนอซื้อของอุตสาหกรรมทั้งส่งออกข้าวและเอทานอล จะทำให้เกิดความแตกต่างด้านราคา แต่ไม่ใช่แข่งขันกันแพง

เพราะถ้าซื้อไปส่งออกมีโอกาสที่ราคาจะสูงเกิน 12 แต่ไม่ถึง 15 บาท/กก. แต่กลับมีผู้ส่งมาเพียงรายเดียว บิ๊กส่งออกอื่น ๆ ต่างเงียบหมด ไม่มีใครแย่งซื้อ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเอเซียโกลเด้นไรซ์ กลุ่มนครหลวง กลุ่มโกลเด้นแกรนารี่ กลุ่ม ซี.พี. ไทยฟ้า ไม่มีชื่อร่วมประมูล

ADVERTISMENT

ขณะที่หากขายให้อุตสาหกรรมเอทานอล ที่ใช้ข้าวไปผลิตแทนมันสำปะหลังได้ก็จริงอยู่ แต่หากดูสถานการณ์ราคามันสำปะหลังก็มีการปรับราคาลดลง หัวมันสดปีนี้ กก.ละ 2.85-3.15 บาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ราคา 3.05-3.40 บาท ส่วนราคามันเส้น ปีนี้ 8.30-8.40 บาท/กก. ลดลงจากปีก่อนที่เคยขายได้ 9.10-9.30 บาท/กก. ดังนั้นจึงน่าแปลกที่เข้ามาแข่งเสนอราคาทั้งที่ราคามันก็ถูกกว่า และแนวโน้มลดลง

“การประมูลจึงจะมี 2 เรตราคาคือ คิดราคาแบบส่งออกข้าวก็จะอยู่ที่ 15-17 บาท ซึ่งต่ำกว่าครั้งก่อนที่เคยขายได้ 17-18 บาทแล้วล้มไป ขึ้นอยู่กับต้นทุนการปรับปรุง แต่หากคิดราคาต้นทุนเอทานอลน่าจะถูกกว่า 10 บาท เพราะครั้งก่อนเคยขายข้าวแบบคุณภาพต่ำให้กลุ่มเอทานอล แค่ 3-5 บาทมาแล้ว จึงนับว่าน่าจับตามองในวันเปิดซองเสนอราคา 17 มิถุนายน 2567 นี้ว่าจะเป็นอย่างไร”