บิ๊กส่งออกออกอาการ ‘ลังเล’ ‘ประมูลข้าวจำนำ 10 ปี

ข้าวจำนำ 10 ปี

วงการข้าวเสียงแตก ‘ประมูลข้าวจำนำ 10 ปี’ บิ๊กส่งออกออกอาการ ‘ลังเล’ ไม่กล้าซื้อกลัวเสียชื่อ หวั่นราคาประมูลแผ่ว 15-20 บาทยังต้องลุ้น

วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 กรณีคำแถลงของ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ที่ออกมายืนยันเรื่องมาตรฐาน-ความปลอดภัยของ “ข้าวสารจาก 2 โกดังสุดท้ายของโครงการรับจำนำข้าวอายุ 10 ปี” ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ที่คลังกิตติชัยหลัง 2 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์

และคลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ รวมทั้งหมด 15,013.24 ตัน คิดเป็น 145,590 กระสอบนั้น ผ่านฉลุยทั้งสารปลอมปนและคุณค่าทางโภชนาการ แม้ทางกายภาพสอบไม่ผ่าน ทั้งสีเหลือง มีมอดแมลง แต่ยังมั่นใจใช้บริโภคได้

ซึ่งทางนายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า หลังจากที่ผลตรวจสอบคุณภาพผ่าน คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ทาง อคส.จะประกาศจำหน่ายข้าวในสต๊อกเป็นการทั่วไป

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สอบถามไปยังผู้ประกอบการโรงสีและผู้ส่งออกข้าวหลายราย ว่าหากจะเปิดประมูลข่าวลอตดังกล่าวในเดือนพฤษภาคม 2567 นี้ คาดว่าจะเข้าร่วมประมูล และจะให้ราคาสูงถึง 15-20 บาท/กก. ตามที่เคยคาดการณ์หรือไม่ ปรากฏว่าคำตอบที่ได้รับแตกต่างหลากหลาย

ผู้ส่งออกข้าวหลายส่วนอาจจะยังยืนยันไม่ได้ว่าจะประมูลหรือให้ราคา 15-20 บาท/กก. เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ร่วมประเมินหรือไม่ เพราะหลังจากที่มีการออกมาใช้ประเด็นทางการเมืองวิจารณ์คุณภาพข้าวในโกดังส่งผลต่อตลาดข้าวพอสมควร

ADVERTISMENT

แหล่งข่าวผู้ส่งออกรายใหญ่ระดับท็อป 5 รายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แม้ว่าผลตรวจสอบคุณภาพจะออกมายืนยันแล้วว่าผ่าน แต่บริษัทไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับการประมูล เพราะกลัวเสียชื่อ

ขณะที่นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ธนสรรไรซ์ จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ได้รับทราบผลการตรวจสอบแล้ว ซึ่งหลังจากนี้บริษัทพร้อมจะเข้าร่วมการประมูล แต่อย่างไรก็ตาม ต้องอธิบายว่าราคาประมูลนั้นต้องเป็นไปตามกลไกตลาด

ADVERTISMENT

เช่นเดียวกับนายวัลลภ พิชญ์พงศา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด หรือ STC กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในกรณีที่นายวิญญ พิชญ์พงศา (น้องชาย) เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกที่ได้รับการโทรศัพท์เชิญชวนให้ไปร่วมคณะกระทรวงพาณิชย์ในการตรวจสอบและชิมข้าวจำนำ 10 ปี ด้วย ทางเราก็ให้ความร่วมมือ แต่ไม่ได้คิดว่าจะไปให้สัมภาษณ์อะไรในจุดนั้น

“หลังจากที่กลับมายังไม่ได้มีการสรุปกันว่าจะร่วมประมูลหรือไม่ ตอนนี้ยังคงต้องมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ต้องรอดูเงื่อนไขการประมูลยังไม่ออกมา เลยยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะอย่างไร สถานการณ์ส่งออกโดยรวมปีนี้ยังน่าพอใจ ส่วนแนวโน้มส่งออกครึ่งปีหลังยังต้องรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง”

อนึ่ง บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด และบริษัทในเครือ คือบริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ จำกัด และยังมีบริษัท โรงสีนครหลวงชัยนาท จำกัด เป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากกลุ่มเอเซียโกลเด้นไรซ์

ในฟากตัวแทนกลุ่มโรงสีที่ลงพื้นที่สำรวจข้าวด้วย คือนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโรงสีข้าวไทย เจ้าของโรงสีบริษัท รุ่งทรัพย์พืชผล เทรดดิ้ง จำกัด ที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากผลตรวจสอบข้าวออกมาพบว่าข้าวมีคุณภาพดี ทางโรงสีก็มีความสนใจเข้าร่วมประมูลด้วย แม้ว่าจะเปิดขายเพื่อส่งออก ตอนนี้มีโรงสีหลายรายที่ทำตลาดส่งออกเช่นกัน และเชื่อว่าการประมูลน่าจะคึกคัก และมีโอกาสที่ราคาจะยังได้ 15-20 บาท

เพราะขณะนี้ผลผลิตข้าวนาปรังออกสู่ตลาดหมดแล้ว ส่วนนาปรังรอบสองน่าจะออกสู่ตลาดในเดือนกรกฎาคม ถึงต้นสิงหาคมก็จะหมดแล้ว ซึ่งยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าผลผลิตจะมากขึ้นหรือลดลง ต้องรอดูสถานการณ์ฝนในช่วงครึ่งหลังว่าจะมาสม่ำเสมอหรือไม่

รายงานข่าวระบุว่า การประมูลครั้งนี้ยังมีโอกาสที่จะมีโรงสีคลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง ประมูลซื้อข้าวในคลังที่ตัวเองเก็บรักษาด้วยเช่นกัน ส่วนเจ้าของคลังกิตติชัยพื้นเพไม่ได้ทำกิจการโรงสีข้าว แต่ทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เพียงแต่มาสร้างคลังให้เช่าเท่านั้น หากจะร่วมประมูลด้วยก็ต่อเมื่อมีตลาดหรือมีผู้ซื้อมารองรับเท่านั้น