โรงสีจี้รัฐเปิดประมูล “ข้าวจำนำ 10 ปี” ให้ทั้งผู้ผลิตข้าวถุง-ผู้ส่งออกสู้ราคา

ส่งออกข้าว

โรงสีท้าหากข้าวจำนำ 10 ปี คุณภาพดีกินได้ ควรเปิดประมูลทั่วไป เปิดกว้างให้ผู้ผลิตข้าวถุง-ผู้ส่งออก แข่งเสนอราคา โปร่งใส ช่วยรัฐได้ประโยชน์สูงสุด 20 บาท

วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากทราบเบื้องต้น ว่าจะมีการประกาศเปิดประมูลข้าวตามโครงการรับจำนำข้าว ที่คลังกิตติชัยหลัง 2 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ปัจจุบันมีข้าวประมาณ 112,711 กระสอบ

และคลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ มีข้าวจำนวน 32,879 กระสอบ ลอตที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะหลังลงพื้นที่ตรวจสอบและนำข้าวที่เก็บอยู่ในโกดังมาหุงและรับประทาน และจะเปิดประมูลข้าวภายในเดือนพฤษภาคมเพื่อปิดบัญชีโครงการรับจำนำ แต่อาจจะขายเฉพาะส่งออกเพื่อสยบดราม่า

“เรามองว่าถ้าข้าสคุณภาพดีกินได้พร้อมขาย ต้องเปิดให้มีการแข่งขันเสนอราคา เพราะถ้าส่งออกได้ ก็ ขายในประเทศได้เช่นกัน และการเปิดกว้างจะทำให้ ขายได้ราคาที่ดีขึ้น รัฐจะได้ประโยชน์สูงสุด เป็นไปได้จะเห็นราคาสูง เพราะมีการแข่งขันกัน และเปิดให้โปร่งใส เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรม เช่น ยื่นซองวันนี้และเปิดซอง เสนอราคาโชว์ ไม่ให้มีเงื่อนงำ”

ซึ่งเท่าที่ดูจากภาพการตรวจ มองว่า ผลตรวจ สภาพ เป็นข้าวสาร ไม่เป็นแป้งหุงได้ และไม่ได้โดนความชื้นจนเป็นก้อนเป็นเชื้อรา ก็แสดงว่าคุณภาพกายภาพยังใช้ได้ แต่สีสันของข้าว เปลี่ยนตามกาลเวลา แต่มาตรฐานข้าวของไทยต้องเป็นสีขาว เม็ดเปลี่ยนเป็นสีเหลือง คือ เสื่อมสภาพ

Advertisment

“การเก็บสิบปีได้ เคยมีข้าวติดคดี เหมือนกัน แล้วค่อยมาประมูลขาย ซึ่งการที่ข้าวมีความชื้น 11.5-12% เท่านั้น ไม่ถึง 15-16% ที่จะเป็นเชื้อรา นักวิชาการจินตนาการเกินไป รมยาไม่มีผลต่อคุณค่าทางโภชนาการ ต้องอธิบายว่า เหมือนเราฉีดยากันยุงในห้อง เป็นสารเคมีระเหยไป ก็หมดไป ทั่วโลกทุกประเทศก็รมยา 14 วันยาระเหยไปหมดแล้ว ถ้ายาซึมไปในเมล็ดคนที่ชิมวันนั้นตายหมดแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ทุกกระบวนการต้องไปปรับปรุง ดูดฝุ่นออก คัดแยก และขัดสีใหม่ก่อนไปหุง ปกติผู้ส่งออกที่ซื้อข้าวไปทุกวันไม่มีใครเทเอาออกจากกระสอบไปหุงทันที

หากซื้อราคา กก.ละ 20 จะมีต้นทุนในการปรับปรุง เท่าไหร่ ต้องดูเม็ดเหลืองมีเท่าไร ที่เป็นฝุ่นมีน้ำหนักเท่าไร สมมุติบางคนคาดการณ์ว่าเสียหาย 5% กับบางคนคาดว่า เสียหาย 10% ก็จะให้ราคาถูกแพงต่างกัน ก็คือการให้ประมูล แต่ละคนต้องไปดูสภาพ และประมาณการความเสี่ยงเอง มีส่วนต่างกันอยู่ แต่ตลาดข้าวแบบนี้ ผู้บริโภคที่บริโภคเป็นข้าวเก่าก็มี

สำหรับ ราคาตลาด มะลิใหม่ ปี 66/67 ข้าวสาร 30,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ปี 65/66 ย้อนไป จะสูงกว่า 1,000-2,000 บาท ขึ้นไป เป็น 32,000 บาท

Advertisment

ส่วนระยะเวลารับมอบสำหรับปริมาณแค่นี้ หากประมูลขายได้ทั้งหมด คงใช้เวลารับมอบไม่ถึงเดือนก็หมดแล้ว ไม่กระทบผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่แน่