ชาวไร่จี้รัฐทบทวนแผนลดใช้เอทานอล กระทบมันสำปะหลัง

เอทานอล-มันสำปะหลัง

สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังร้องหน่วยงานรัฐ ปรับลดการใช้เอทานอลในภาคการขนส่งลง ขัดแย้งต่อการส่งเสริม E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน กระทบต่อราคาสินค้าเกษตร แนะรัฐเร่งทบทวน

วันที่ 18 มิถุนายน 2567 นายรังษี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการวางยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศตามหลัก BCG Model และยังได้มีการสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 เอทานอลที่ผสมในน้ำมันเบนซินถือได้ว่าเป็นเชื้อเพลิงสะอาดที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว

แต่ในขณะเดียวกันภาครัฐกลับมีการปรับลดเป้าหมายและลดการสนับสนุนการใช้เอทานอลในภาคการขนส่งลง ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ขัดแย้งต่อการบรรลุเป้าหมาย

ประโยชน์จากการส่งเสริม E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน แบ่งเป็น 3 ด้าน ดังนี้

ด้านเศรษฐกิจ

  • เพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง
  • รักษาเสถียรภาพราคาพืชพลังงาน สร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับภาคเกษตร
  • ถ้าส่งเสริม E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน รายได้ 21,900 ล้านบาท/ปี (กรมธุรกิจพลังงาน) สู่เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง ถือเป็นการกระจายรายได้สู่เกษตรกรไทย จำนวน 1.2 ล้านครัวเรือน (กรมส่งเสริมการเกษตร, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
  • ก่อให้เกิดความต้องการใช้เอทานอล 1,620 ล้านลิตร/ปี ทำให้เกิดการสร้างรายได้ประมาณ 41,200 ล้านบาท/ปี (กรมธุรกิจพลังงาน)
  • ในช่วง 10 ปีหลัง ราคาหัวมันสดเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.15 บาท/กก. ผลผลิตเฉลี่ย 30 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 34,500 ล้านบาท (สศก.)
  • กากน้ำตาลราคาสูงขึ้น 5 บาท/กก. ผลผลิตเฉลี่ย 4 ล้านตัน/ปี คิดเป็นมูลค่า 20,000 ล้านบาท และคิดเป็นส่วนเพิ่มราคาอ้อยกลับสู่เกษตรกรประมาณ 150 บาท/ตันอ้อย ถ้าผลผลิตตันอ้อยเฉลี่ย 100 ล้าน/ปี คิดเป็นมูลค่าเพิ่มกลับไปสู่ชาวไร่ 15,000 ล้านบาท

ด้านสังคมและความมั่นคงทางพลังงาน

  • ปริมาณการใช้เอทานอลผสมในน้ำมันเบนซินเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ปีละ 1,350 ล้านลิตร ช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันเบนซิน 950 ล้านลิตร (เอทานอลให้พลังงานคิดเป็นประมาณ 70% ของเบนซิน)
  • ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ โดยมีแหล่งพลังงานทดแทนที่ผลิตจากวัตถุดิบภายในประเทศ
  • การกระจายรายได้สู่ภาคเกษตร ลดการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสู่เมือง เป็นการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

ด้านสิ่งแวดล้อม

  • ลดการเกิดมลพิษทางอากาศ เช่น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เอทานอล 1 ลิตร ลดการปล่อย CO2 ได้ 1.51 kgCO2 ส่งผลให้การใช้เอทานอลในปี 2566 เฉลี่ยวันละ 3.5 ล้านลิตร สามารถลดการปล่อย CO2 ได้ประมาณ 1.929 ล้านตัน (สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดสภาวะแก๊สเรือนกระจก และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยังช่วยลดฝุ่น PM 2.5

นายรังษีกล่าวอีกว่า หากรัฐบาลดำเนินการปรับลดเป้าหมายและลดการสนับสนุนการใช้เอทานอลในภาคการขนส่งลง จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตร รายได้เกษตรกร จองตั๋ว E20

ผลกระทบหากไม่ส่งเสริม E20

  • กระทบราคาสินค้าเกษตร ส่งผลให้อ้อย มันสำปะหลัง ราคาลดลง เกษตรกรขาดรายได้
  • ผู้ลงทุนขาดความมั่นใจซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรัฐที่ไม่ต่อเนื่อง
  • ไม่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐตามหลัก BCG Model และเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065

ข้อเสนอแนวทางการสนับสนุนจากภาครัฐ

  • ส่งเสริมให้ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ และลดชนิดของน้ำมันเบนซินในตลาดให้น้อยลง
  • ส่งเสริมให้เอทานอลเป็นวัตถุดิบในการผลิตโอพลาสติกชนิด Poly Ethylene (PE)
  • ส่งเสริมให้ใช้วัตถุดิบภายในประเทศนำไปใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF)
  • การปลดล็อคกฏระเบียบเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายสุราสามทับ ให้สามารถจำหน่ายเอทานอลสู่อุตสาหกรรมอื่น ๆ ภายในประเทศได้ เช่น อุตสาหกรรม ยา สมุนไพร เครื่องสำอาง เคมี อาหาร บรรจุภัณฑ์ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม เป็นต้น

อย่างไรก็ดีภาย หลังจากวันที่ได้มีการหารือกับหน่วยงานของภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ก็มีการคาดหวังว่าจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะหาแนวทางการช่วยเหลือเพื่อภาพรวมได้

ADVERTISMENT