
สกนช. ประกาศเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง ผอ.สกนช. ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.-21 ก.ย. 2567 เงินเดือนสูงสุด 200,000 บาท
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงนามประกาศ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เรื่อง รับสมัครคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (ผอ.สกนช.) ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2567
เพื่อรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือก เพื่อดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (ผอ.สกนช.) ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 21 กันยายน 2567 เป็นระยะเวลา 30 วัน พิจารณาและประกาศรายชื่อผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เพื่อรับตำแหน่งแทน นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ที่ครบวาระงานเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2567
คุณสมบัติผู้สมัคร ผอ.สกนช.
สาระสำคัญระบุว่า สกนช.รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่ง ผอ.สกนช. มีหน้าที่บริหารกิจการของสกนช. ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2566 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ นโยบายหรือมติที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กำหนด และเป็นผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของ สกนช.
1.เงื่อนไขการจ้าง
ผอ.สกนช. มีวาระดำรงตำแหน่ง เป็นระยะ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง และเมื่อครบกำหนดตามสัญญาจ้าง หากมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ อาจได้รับการแต่งตั้งได้อีก
2.คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งของผู้มีสิทธิสมัคร
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
(3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงาน ก.พ. รับรอง
(4) สามารถทำงานให้แก่ สกนช. ได้เต็มเวลา
(5) เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่เหมาะสมกับกิจการของ สกนช. และมีประวัติการทำงานหรือผลงานสำคัญที่แสดงถึงการบริหารจัดการองค์กร การบริหารบุคคล การบริหารงบประมาณ รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์
(6) มีสุขภาพแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่เป็นโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่
(7) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(8) ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(9) ไม่เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
(10) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(11) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
(12) ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือประพฤติไม่เหมาะสม
(13) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออกหรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติ
ช่องทางการรับสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็น ผอ.สกนช. จะต้องยื่นใบสมัคร พร้อมเอกสารและหลักฐานการสมัคร โดยสมัครด้วยตนเองหรือฝากส่งเอกสารมาที่ สกนช. ในวันและเวลาราชการ หรือส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนแบบด่วน (EMS) หรือบริการพัสดุตอบรับไปที่ เลขานุการคณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้นเพลิง สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เลขที่ 555/2 ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กข์ อาคาร B ชั้น 11 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ถึงวันที่ 21 กันยายน 2567
วิธีการคัดเลือก
คณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะดำเนินการสรรหาโดยพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นจากใบสมัครและเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร โดยจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ณ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเว็บไซต์ www.offo.or.th
คณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะนัดหมายเชิญผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นมาพบเพื่อสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์แนวทางการบริหารสำนักงาน คนละประมาณ 30 นาที
เกณฑ์การพิจารณาผู้เหมาะสม
(1) วิสัยทัศน์และแนวทางการบริหาร 35 คะแนน
(2) ความรู้ ความสามารถ ประวัติและผลงาน 35 คะแนน
(3) บุคลิกภาพ ความเป็นผู้นำและความสามารถในการประสานงาน 30 คะแนน โดยผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์ความเหมาะสมจะต้องได้รับคะแนนรวมเฉลี่ย ตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ดำรงตำแหน่ง ผอ.สกนช. จะได้เงินเดือนประจำและผลประโยชน์อื่นที่จ่ายเป็นตัวเงิน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและประสบการณ์ของผู้สมัครตามตกลงและได้รับเห็นชอบ โดยกรอบรวมต่อเดือน ประกอบด้วย เงินเดือนประจำ 100,000-200,000 บาท + ประโยชน์ตอบแทนอื่นที่เป็นตัวเงิน ไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินเดือนประจำ