
‘พิชัย’ รมว.พาณิชย์ หารือเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย พร้อมเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าสองประเทศ ชี้ TEMU จดทะเบียนตั้งบริษัท เวลโค เทคโนโลยี ในไทยแล้ว พร้อมช่วย SMEs ไทยขายสินค้า สบช่องขอเร่งซื้อข้าวจีทูจีที่ค้างอยู่ 2.8 แสนตัน นำเข้ามันสำปะหลังจากไทย และเร่งส่งออกโคมีชีวิตจากไทยไปจีน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยและคณะ โดยมีนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเข้าร่วม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าของสองประเทศในประเด็นต่าง ๆ ทั้งการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และการขอความร่วมมือรับซื้อสินค้าเกษตร ทั้งข้าวและมันสำปะหลังจากไทย เพื่อเพิ่มปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปจีน
ทั้งนี้ ตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้พบปะพูดคุยกับนายหาน จื้อเฉียง มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสวงหาความร่วมมือระหว่างจีนและกระทรวงพาณิชย์ และเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา เอกอัครราชทูตจีนได้สละเวลา และยกคณะมาประชุมที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมกัน เพื่อปลดล็อกความกังวลเรื่องสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
ซึ่งในเรื่องนี้ตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา โดยคำนึงถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในทุกมิติ ไม่ทำให้กังวลหรือกระทบความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เน้นการปฏิบัติตามหลัก ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งฝ่ายจีนเข้าใจเป็นอย่างดี และได้ช่วยเหลือกันในหลายเรื่องจนสำเร็จ
“ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ TEMU ได้ดําเนินการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว โดยใช้ชื่อบริษัท เวลโค เทคโนโลยี จํากัด และจีนก็ยินดีที่จะส่งเสริมสินค้าของ SMEs ไทยให้เข้าไปจำหน่ายในจีน ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรูปแบบใหม่” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า ตลาดจีนเป็นตลาดใหญ่ ตนจึงได้ขอความร่วมมือจากทางการจีนพิจารณารับซื้อสินค้าเกษตรจากไทย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพี่น้องเกษตรกรไทย โดยจากการหารือกันในเบื้องต้น จีนยินดีที่จะสนับสนุนเกษตรกรไทย โดยจะพิจารณาซื้อข้าวจากไทยอีก 280,000 ตัน จากสัญญา 1 ล้านตันให้ได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ปิดดีลครบสัญญาการซื้อขายข้าวจีทูจีระหว่าง COFCO และกรมการค้าต่างประเทศ ที่ลงนามใน MOU กันไว้ตั้งแต่ปี 2558
ขณะเดียวกัน ได้ผลักดันให้ผู้นำเข้าจีนรับซื้อมันสําปะหลังของไทย ที่ผลผลิตกำลังจะออกมามากในช่วงนี้ เพื่อช่วยเกษตรกรไทยกว่า 7 แสนครัวเรือน รวมทั้งจะผลักดันให้สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC) และกรมปศุสัตว์ไทย บูรณาการร่วมกัน และเร่งขับเคลื่อนให้จีนสามารถนำเข้าโคมีชีวิตจากประเทศไทยได้ และในปี 2568 จะเป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน กระทรวงพาณิชย์จะมีกิจกรรมร่วมกับทางการจีนหลายเรื่อง เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและจีนต่อไป