
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐคาดเริ่มตั้งกำแพงภาษี แคนาดา และเม็กซิโกภายในวันเสาร์นี้
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ คาดจะเริ่มแผนการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าแคนาดาและเม็กซิโก 25% ภายในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 68 ส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบอาจตึงตัวมากขึ้นจากอุปทานน้ำมันดิบที่ลดลงจากแคนาดาและเม็กซิโก
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 30 ม.ค. 2568 อยู่ที่ 72.73 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.11 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 76.87 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.29 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
อุปสงค์น้ำมันดิบสหรัฐปรับลดลง หลังการเข้ามาของพายุฤดูหนาวสหรัฐ ส่งผลให้โรงกลั่นจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตลง ซึ่งจะส่งผลให้การนำน้ำมันดิบเข้าโรงกลั่นปรับลดลง และทำให้สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 ม.ค. 68 ปรับเพิ่ม 3.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับเพิ่มเพียง 3.2 ล้านบาร์เรล
ตลาดยังคงจับตาการประชุม OPEC+ ที่กำลังจะมาถึงวันที่ 3 ก.พ. 68 โดยล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการให้ OPEC+ ลดราคาน้ำมันเพื่อต้องการยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดข้อเรียกร้องดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นเนื่องจากจะเป็นผลเสียของทั้ง 2 ฝ่าย
ราคาน้ำมันเบนซิน
ตลาดปิดเนื่องจากเป็นวันหยุด Lunar New Year
ราคาน้ำมันดีเซล
ตลาดปิดเนื่องจากเป็นวันหยุด Lunar New Year