14 โรงเหล็กเส้นจีนป่วนหนัก สั่งยกเลิก มอก. ‘เตาหลอม IF’

14 โรงเหล็กจีนป่วนหนัก “เอกนัฏ” สั่งสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) หาทางเลิก มอก.เหล็กเส้นเตาหลอมอินดักชั่น (IF) ยกเหตุผลกรณีเหล็กข้ออ้อยตกมาตรฐาน ไม่สามารถควบคุมคุณภาพเหล็กได้ พร้อมหนุนโรงเหล็กเตาอาร์คไฟฟ้า (EAF) กลับมาเปิดโรงงานผลิตใหม่เต็มกำลัง ด้านสถาบันเหล็กเชื่อถ้าทำสำเร็จถึงขั้นโรงเหล็กจีนต้องย้ายฐานผลิตออกนอกประเทศ

หลังจากที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงนามในคำสั่งให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (นายณัฐพล รังสิตพล) ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) บรรจุวาระเพื่อพิจารณา “ทบทวน” ให้ยกเลิกการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเหล็ก (มอก.เหล็ก) ที่ผลิตโดยกระบวนการเตาหลอม (Induction Furnace หรือ เตา IF)

โดยเชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีเตาระบบเปิดที่ดึงสิ่งสกปรกออกจากน้ำเหล็กได้ยาก สร้างมลพิษฝุ่นและแก๊สพิษจากการผลิตเหล็ก ที่สำคัญก็คือ กระบวนการผลิตของเตาหลอม IF ไม่สามารถควบคุมคุณภาพเหล็กที่ผลิตออกมาให้สม่ำเสมอได้ โดยยกตัวอย่างกรณีผลการทดสอบเหล็กข้ออ้อย (SKY) ที่ผลิตโดยบริษัทซิน เคอ หยวน ตกมาตรฐานก็ผลิตจากเตาหลอมเหล็กประเภทนี้เช่นกัน

สั่ง มอก.เลิกเหล็กเตา IF

นายเอกนัฏกล่าวว่า สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ออก มอก.20-2543 (แก้ไขมาตรฐานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต-เหล็กเส้นกลม) มอก.24-2548 เพื่อรองรับให้มีการใช้เตาหลอม IF ในการผลิตเหล็กข้ออ้อยมาตั้งแต่ปี 2559 เปิดทางให้บริษัทที่ผลิตเหล็กจากเตาหลอม IF อย่างบริษัทซิน เคอ หยวน ได้รับ มอก.มาตั้งแต่ปี 2561

และที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการตรวจสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบมาตรฐาน มอก.โรงงานผลิตเหล็กเตาหลอม IF หลายแห่ง ปรากฏเหล็กที่ผลิตออกมาไม่ผ่านมาตรฐานตามที่ขอไว้ จึงเกิดการอายัดห้ามผลิตและจำหน่าย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า โรงงานที่ผลิตเหล็กจากเตาหลอม IF นั้น “ไม่สามารถควบคุมคุณภาพวัตถุดิบให้มีคุณภาพที่ดีได้”

ประกอบกับในขณะนี้ได้มีโรงงานผลิตเหล็กที่ผลิตโดยกระบวนการเตาอาร์กไฟฟ้า Electric Arc Furnace หรือเตา EAF ที่ใช้ไฟฟ้าในการหลอมเหล็ก ซึ่งกระบวนการผลิตเหล็กแบบนี้จะสามารถดึงสิ่งสกปรกออกจากน้ำเหล็กได้ดีกว่าเตาหลอม IF จึงสร้างมลพิษฝุ่นและแก๊สพิษน้อยกว่า และยังควบคุมคุณภาพได้ง่ายและสม่ำเสมอกว่าด้วย

ADVERTISMENT

“จากการหารือกับสมาคมผู้ผลิตเหล็ก และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แจ้งว่า ปี 2567 ไทยมีกำลังการผลิตเหล็กด้วยเตาอาร์กไฟฟ้า EAF ถึง 4.3 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้เหล็กเส้นอยู่ที่ประมาณ 2.8 ล้านตัน ดังนั้นการทบทวนการออก มอก.ที่ใช้รับรองกระบวนการผลิตเหล็กจากเตาหลอม IF จึงสามารถดำเนินการได้ เพื่อที่จะยกเลิกเหล็กที่ผลิตจากเตาหลอมประเภทนี้

ซึ่งตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หากมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนหรือระบบเศรษฐกิจ คณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) สามารถพิจารณาและมีมติให้รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม สามารถออกประกาศกระทรวงปรับแก้ไขยกเลิกการรับรอง มอก.เหล็กได้อยู่แล้ว” นายเอกนัฏกล่าว

ADVERTISMENT

กวาดโรงเหล็กเตา IF

ด้านนายวิโรจน์ โรจน์วัฒนชัย ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการผลิตเหล็กในประเทศไทยที่ใช้เตาหลอม Induction หรือเตาหลอม IF มีทั้งหมด 14 โรง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการสัญชาติจีน บางรายมีการร่วมลงทุนกับคนไทย แน่นอนว่า หากกระทรวงอุตสาหกรรมมีการทบทวนและพิจารณาให้ยกเลิกมาตรฐาน มอก.

เหล็กที่ผลิตจากเตาหลอม IF โรงงานเหล็กเหล่านี้จะต้องเปลี่ยนเตาใหม่ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า จะต้องลงทุนใหม่ และการลงทุนใหม่จะต้องใช้เงินค่อนข้างมากเพื่อปรับปรุงให้ใช้เทคโนโลยีเป็นเตาอาร์กไฟฟ้า หรือเตา EAF “จึงมีโอกาสเป็นไปได้ที่ทางนักลงทุนเหล่านี้อาจจะต้องปิดกิจการและย้ายฐานการผลิตเหล็กเตา IF ออกจากประเทศไทย”

ทั้งนี้หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนที่ประเทศไทยจะมีการอนุญาตให้ใช้เตาหลอม IF โดยกำหนดเป็นมาตรฐานเหล็ก มอก.ขึ้นมา ทางสถาบันเหล็กฯในตอนนั้นได้ร่วมเป็น 1 ในตัวแทนที่ต้องออกความคิดเห็นในคณะกรรมการวิชาการ

แต่เป็นการออกความคิดเห็นในส่วน “ห้องรับรองเพื่อทดสอบ มอก.เหล็กจากเตาหลอม IF” สถาบันเหล็กฯไม่ได้ออกความเห็นว่า โรงเหล็กจะใช้เตาอะไรหรือใช้เทคโนโลยีอะไร หรือควรใช้เตาหลอม IF หรือไม่ควรใช้ เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น เช่น สมอ. ผู้ประกอบการ นักวิชาการ สภาวิศวกร เป็นต้น

สำหรับขั้นตอนการยกเลิก มอก.เหล็กที่ผลิตจากเตาหลอม IF นั้น หากดำเนินการตามขั้นตอนในภาวะปกติ “จะใช้เวลาค่อนข้างนานและยาก” โดยจะเริ่มตั้งแต่สาเหตุของการปรับ/ยกเลิก มอก. เช่น เหล็กแผ่นห้ามชุบสังกะสี วัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน จากนั้นต้อง “เปิดรับฟังความคิดเห็น” กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาฯ เพื่อเกี่ยวข้องกับงานด้านการก่อสร้าง 60 วัน-180 วัน

และต้องมากำหนด มอก.ใหม่ ส่งหนังสือเวียนให้โรงงานผู้ผลิตเหล็กและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน “แต่ถ้าอ้างสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบตอนนี้หรือเรียกว่า เหตุฉุกเฉิน ก็อาจเป็นไปได้ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมอาจใช้อำนาจรัฐมนตรีลงนามเพื่อออกประกาศคำสั่งยกเลิก มอก.เหล็กจากเตาหลอม IF ก็ได้” นายวิโรจน์กล่าว

ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ผลิตเหล็กด้วยเตาอาร์กไฟฟ้า Electric Arc Furnace (EAF) ที่ใช้ไฟฟ้าในการหลอมเหล็ก จะสามารถดึงสิ่งสกปรกออกจากน้ำเหล็กได้ดีกว่าเตาหลอม IF และเป็นเตาแบบระบบปิด สร้างมลพิษฝุ่นและแก๊สพิษน้อยกว่า ควบคุมคุณภาพได้ง่ายและสม่ำเสมอกว่า

นอกจากนี้การเลิกเหล็กที่ผลิตจากเตาหลอม IF จะเป็นไปตามที่โรงงานเหล็กที่ผลิตเหล็กจากเตาอาร์กไฟฟ้า EAF ได้พยายามเรียกร้องมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเหล็กที่ผลิตจากเตา EAF มีกำลังการผลิตเพียงพอกับความต้องการใช้ในขณะนี้ หากทุกโรงเหล็กเตาอาร์กไฟฟ้ากลับมาผลิตเต็มกำลังผลิตอีกครั้ง” นายวิโรจน์กล่าว

จีนเลิกเตา IF ทะลักเข้าไทย

รายงานข่าวจากกลุ่มผู้ประกอบการผลิตเหล็กแบบเตาอาร์กไฟฟ้า (EAF) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้เลิกการผลิตเหล็กด้วยเตาหลอม IF มาโดยตลอด เนื่องจากเทคโนโลยีเตา IF ในจีนมีคำสั่งให้ปิดโรงเหล็กที่ใช้เตาแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2560 และออกตรวจสอบไม่ให้มีการเปิดโรงเหล็กเตาหลอม IF อีก ส่งผลให้ผู้ประกอบการจีนที่ผลิตเหล็กจากเตาหลอมต้องย้ายฐานการผลิตมาตั้งโรงงานเหล็กนอกประเทศ โดยมีจุดหมายอยู่ที่กลุ่มอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย ด้วย

ช่วงนั้นมีการล็อบบี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยอมรับมาตรฐานการผลิตเหล็กแบบเตาหลอม IF ดำเนินการล็อบบี้โดยกลุ่มผู้ประกอบการโรงเหล็กจีน สุดท้ายกระทรวงอุตสาหกรรมก็ให้การรับรองและออก มอก.เหล็กให้โรงงานจีนสามารถผลิตเหล็กข้ออ้อยชั้นคุณภาพ SD40 SD50 (ขนาด 28-32 มิลลิเมตร) ให้เป็นไปตาม มอก.24-2548 ได้ ส่งผลให้เกิดโรงงานเหล็กเตาหลอม IF ขึ้นในประเทศเป็นจำนวนมาก โดยโรงงานของบริษัทซิน เคอ หยวนที่จังหวัดระยองก็เป็น 1 ในนั้น

“อาจกล่าวได้ว่า การที่ สมอ.ยอมแก้ไขรับรอง มอก.เหล็กที่ผลิตจากเตาหลอม IF ทำให้ผู้ประกอบการจีนสามารถคุมกำลังการผลิตเหล็กเส้นได้แทบทั้งประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการเหล็กเส้นไทยที่ลงทุนใช้เตาอาร์กไฟฟ้า EAF ส่วนใหญ่ไม่ขายโรงงานก็หยุดการผลิต เพราะแข่งราคากับเหล็กเส้นโรงงานจีนไม่ได้ในแง่ต้นทุนการผลิตและการทำตลาดที่ดัมพ์ราคาขายกันมาตั้งแต่ต้น

ดังนั้นหากกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินการทบทวนและให้ยกเลิก มอก.เหล็กที่ผลิตจากเตาหลอม IF ได้จริงก็เท่ากับเป็นการกวาดโรงเหล็กจีนทั้ง 14 แห่งให้หยุดการผลิต เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการผลิตเหล็กแบบเตา EAF กลับมาเปิดโรงงานเพื่อผลิตเหล็กที่ได้มาตรฐานกว่าการผลิตแบบเตาหลอม IF” แหล่งข่าวกล่าว

ย้อนแย้ง มอก.อนุญาตเตา IF

อย่างไรก็ตาม การจะใช้อำนาจ รมว.อุตสาหกรรมเพื่อยกเลิก มอก.เหล็กเตาหลอม IF นั้น จะต้องพิจารณาถึง “เหตุผล” ในการยกเลิก มอก.ซึ่งออกไปแล้วด้วย เนื่องจากทั้ง 14 โรงงานเหล็กจีนถือเป็นการเข้ามาลงทุนประกอบกิจการในไทย ส่วนหนึ่งยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ด้วย ซึ่งจะกลายเป็นข้อย้อนแย้งที่ว่า ทำไมไม่พิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะให้อนุญาตให้การส่งเสริมการลงทุนและอนุญาตให้เข้ามาตั้งโรงงานเหล็กเตาหลอม IF ในอดีต ทั้ง ๆ ที่มีการทักท้วงมาโดยตลอด

ขณะที่นักลงทุนต่างชาติก็อาจมองใน “ภาพรวม” ถึงบรรยากาศการลงทุนในประเทศไทยต่อจากนี้ “จะต้องระแวดระวังจากระบบราชการมากขึ้น” เนื่องจากรัฐบาลชักชวนให้เข้ามาลงทุน แต่สุดท้ายกลับไม่ดำเนินการตามกรอบจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานในภายหลัง