
โลกยังลุ้นสงครามอิสราเอล-อิหร่าน หลังสหรัฐเข้ามาหย่าศึก หวั่นอิหร่านปิดช่องแคบ “ฮอร์มุซ” เส้นทางขนส่งหลักน้ำมัน-ก๊าซสูงถึง 20% ของทั้งโลก ขณะที่ไทยโดนกระทบเรื่องราคาน้ำมัน ต้องใช้กองทุนน้ำมันฯเข้าไปตรึงราคาขายปลีกดีเซล 10 วันถึง 5 ครั้งแล้ว คุมไม่ให้เกิน 32 บาท/ลิตร พร้อมวางแผนรับมือกรณีปิดช่องแคบ “พรายพล คุ้มทรัพย์” นักวิชาการพลังงานคาดหากปิดจริงไม่เกิน 1 เดือน ไทยพอรับมือไหว แต่ห่วงเรื่องเงินเฟ้อ-ค่าไฟแพง “ซีไอเอ็มบี” จับตาเดือน ก.ค.ปัจจัยลบรุมเร้าไทยทั้งการเมือง-ภาษีทรัมป์-สงคราม ฉุดจีดีพีลงอีก ธุรกิจท่องเที่ยวทำใจปีนี้เข็นไม่ขึ้น นักท่องเที่ยวจีนลดต่อเนื่อง แถมเจอสงครามอีก ภูเก็ตป่วนยกเลิกห้องพัก
ศึกอิสราเอล-อิหร่านเริ่มนิ่ง
ความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะเข้ามาร่วมวง ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 24 มิถุนายน (เวลาประเทศไทย) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศว่า ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านตามที่ฝ่ายสหรัฐเสนอ มีผลบังคับใช้แล้ว และขอความร่วมมือสองฝ่ายไม่ให้ผิดสัญญา ซึ่งปูทางสู่การยุติ “สงคราม 12 วัน” อย่างเป็นทางการ
การประกาศหยุดยิงเกิดขึ้นภายหลังจากที่อิหร่านเลือกตอบโต้สหรัฐ กรณีช่วยอิสราเอลทำลายฐานนิวเคลียร์สำคัญ 3 แห่ง โดยการยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอากาศอัล อูเดอิดของสหรัฐในประเทศกาตาร์ แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นการทำเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เนื่องจากอิหร่านแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนลงมือ ทำให้ไม่มีชาวอเมริกันเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ และแทบไม่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินใด ๆ
ส่งผลให้โลกคลายความกังวลได้อีกเปลาะจากความเป็นไปได้ที่ความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางจะบานปลาย ถึงขั้นที่อิหร่านเลือกหนทางปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางยุทธศาสตร์ค้าก๊าซธรรมชาติและน้ำมันโลก ซึ่งหากสงครามยืดเยื้ออาจส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
สงครามดันราคาน้ำมันพุ่ง
สำหรับสงครามในตะวันออกกลางเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่าน มีผลให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งขึ้น โดยเพิ่มจากระดับ 65 เหรียญสหรัฐ ไปแตะ 79 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ภายในเวลาเพียง 10 วัน (13-23 มิ.ย. 68) เพิ่มขึ้นถึง 21.65% ประเทศไทยโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ใช้กลไกกองทุนเข้าไปตรึงราคาขายปลีกดีเซลถึง 5 ครั้ง ไม่ให้เกินลิตรละ 32 บาท ทำให้จากเดิมกองทุนมีรายรับวันละ 241.64 ล้านบาท จนล่าสุดรายรับของกองทุนน้ำมันฯจากกลุ่มน้ำมันดีเซล ติดลบวันละ40.75 ล้านบาท ส่วนรายรับจากกลุ่มน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ประมาณวันละ 76.13 ล้านบาท
กองทุนพยุงดีเซลจนติดลบ
รายรับจากน้ำมันดีเซลลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเกือบ 100 ล้านบาทต่อวัน กลายเป็นติดลบ ขณะที่รายรับจากเบนซินค่อนข้างคงที่ อยู่ในช่วง 72.88-76.13 ล้านบาทต่อวัน ส่วนรายรับรวมของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง จาก 241.64 ล้านบาทต่อวัน เหลือเพียง 35.38 ล้านบาทต่อวัน สะท้อนให้เห็นว่า กองทุนต้องจ่ายชดเชยราคาดีเซลสูง
ขณะที่สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2568 ติดลบประมาณ 35,408 ล้านบาท โดยเป็นบัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 44,403 ล้านบาท และในส่วนของบัญชีน้ำมันสถานะเป็นบวก 8,995 ล้านบาท โดยก่อนหน้าที่จะมีการปรับลดส่งเงิน ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2568 สถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบประมาณ 36,268 ล้านบาท โดยเป็นบัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 44,512 ล้านบาท และในส่วนของบัญชีน้ำมันสถานะเป็นบวก 8,244 ล้านบาท
ผู้ค้าน้ำมันแบกดีเซลหลังแอ่น
ข้อมูล ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2568 พบว่า เบนซิน 95 มีราคาหน้าโรงกลั่น 18.87 บาทต่อลิตร ภาษีสรรพสามิต 7.5 บาทต่อลิตร กองทุนน้ำมันฯ 9.20 บาทต่อลิตร และค่าการตลาด 2.44 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลหมุนเร็ว มีราคาหน้าโรงกลั่น 21.02 บาทต่อลิตร ภาษีสรรพสามิต 6.92 บาทต่อลิตร และค่าการตลาด 1.51 บาทต่อลิตร ซึ่งกระทรวงพลังงานกำหนด “กรอบค่าการตลาดเหมาะสม” ไว้ เช่น 1.50-2.00 บาท/ลิตร เพื่อควบคุมให้สมดุลระหว่างผู้บริโภคและผู้ค้า พบว่าค่าการตลาดทั้งหมดค่อนข้างต่ำกว่ากรอบที่เหมาะสม สะท้อนว่าผู้ค้าน้ำมันกำลัง “แบกรับ” ต้นทุนไว้มากกว่าปกติ
เปิด 3 ทางรับมือปิดฮอร์มุซ
นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางส่งผลให้ราคาน้ำมันมีความผันผวนมาก ประเด็นคือหากมีการสั่งปิดช่องแคบฮอร์มุซจะยิ่งวิกฤต ทางกองทุนติดตามสถานการณ์รายวัน
ตอนนี้จะยังใช้กลไกกองทุนเข้าไปช่วย แต่สถานะกองทุนเหลือเงินไม่มากแล้ว หลังจากนี้เหลือทางเลือกคือ ใช้กองทุนน้ำมันฯ กลไกสำรองน้ำมัน 60 วัน รวมถึงหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อขอปรับลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งแนวทางทั้ง 3 ทางเป็นไปได้หมด
ห่วงเงินเฟ้อพุ่ง-ค่าไฟแพง
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเห็นส่วนตัวว่า ไทยต้องพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากต่างชาติในสัดส่วนมากถึง 46% ของการใช้พลังงานทุกชนิดรวมกัน แบ่งเป็นการนำเข้าน้ำมัน 34% และก๊าซธรรมชาติ 12% ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันจากภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีแหล่งสำคัญคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต ซาอุดีอาระเบีย และโอมาน และเป็นน้ำมันที่ขนส่งมาทางเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุซ
ส่วนก๊าซธรรมชาติ LNG นำเข้าจากตะวันออกกลาง เป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของการนำเข้า LNG ทั้งหมด โดยเกือบทั้งหมดต้องขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ดังนั้นอย่างน้อย 1 ใน 3 ของพลังงานที่ใช้ในประเทศไทย คือน้ำมันและก๊าซที่ขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ
ถ้าปิดไม่เกิน 1 เดือน-พอทน
หากการปิดช่องแคบมีผลเป็นเวลาไม่นานเกินหนึ่งเดือน ไทยก็ยังคงมีน้ำมันเหลือใช้อย่างเพียงพอ โดยอาศัยสต๊อกน้ำมันสำรอง 60 วัน อีกทั้งยังสามารถซื้อน้ำมันจากแหล่งผลิตในประเทศอื่น ๆ นอกพื้นที่ตะวันออกกลางได้บ้าง แต่ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือราคาน้ำมันที่แพงขึ้นมาก ทำให้ต้นทุนน้ำมันนำเข้าสูงขึ้นมากเช่นกัน
หากรัฐบาลไม่ใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาขายปลีกของน้ำมันก็จะสูงขึ้น และก็จะทำให้
ค่าขนส่งและราคาสินค้าต่าง ๆ สูงขึ้นด้วย จนกลายเป็นปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจ นอกจากนี้การปิดช่องแคบฮอร์มุซเป็นระยะเวลาหนึ่งก็จะทำให้ปริมาณ LNG จากตะวันออกกลางที่ขนส่งมาไทยขาดแคลนและแพงขึ้นได้เช่นกัน และก็จะมีผลกระทบต่อต้นทุนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ทำให้
ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นได้
ห่วงยืดเยื้อราคาน้ำมันยิ่งพุ่ง
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช่องแคบฮอร์มุซมีการขนส่งน้ำมันและก๊าซ คิดเป็น 20% ของซัพพลายโลก หากมีการปิดช่องทางดังกล่าวจริง มีผลทำให้ซัพพลายด้านพลังงานหายไปในตลาดทันที 20% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงาน ขณะที่ความต้องการด้านพลังงานก็ยังคงเท่าเดิม หากซัพพลายดังกล่าวหายไป เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการและราคาพลังงานทันที
“ตอนนี้เฉลี่ยกว่า 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยมีโอกาสที่จะขยับราคาขึ้น 80-100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลทันที ซึ่งจะขยับไปมากกว่านี้ไหมก็บอกไม่ได้”
สั่ง กฟผ.หา LNG ราคาถูกเพิ่ม
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินว่า ไทยนำเข้าน้ำมันดิบประมาณ 90% มาจากตะวันออกกลางประมาณ 60% กระทรวงพลังงานเตรียมฉากทัศน์ (Scenario) ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเตรียมปริมาณน้ำมันสำรองภายในประเทศ รวมทั้งการหามาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า ก็ต้องนำเข้าผ่านช่องแคบฮอร์มุซเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน ดังนั้น เพื่อเตรียมรับผลกระทบต่อราคาไฟฟ้า ได้สั่งการให้ กฟผ.เตรียมหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากแหล่งอื่นที่มีราคาถูกเพื่อรองรับสถานการณ์ นอกจากนี้อาจจะต้องขอความร่วมมือจากกระทรวงการคลังในการลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตด้วย
จับตาเดือน ก.ค.ปัจจัยลบอื้อ
ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย หรือ CIMBT เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สงครามอิหร่านและอิสราเอล รวมถึงสหรัฐมองว่า สถานการณ์เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากก่อนหน้าธนาคารให้ความเป็นห่วงประเด็นนี้ที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันและทองคำให้เร่งตัวสูงขึ้น แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันและทองคำปรับลดลงมาแล้ว จึงไม่น่ากังวลมากนัก
“เดือนกรกฎาคม ถือเป็นเดือนสำคัญที่ต้องจับตามอง เพราะจะมีเรื่องการเมืองในประเทศ และวันครบกำหนดเส้นตายเจรจาภาษีกับสหรัฐ ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่เพิ่ม Down-Side Risk ต่อเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่า 1.8% ทั้งสิ้นผ่านการลงทุน ภาคการผลิต งบประมาณ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ระหว่างนี้ทุกคนชะลอดูความชัดเจนก่อนจะทำอะไร”
หวั่นนักท่องเที่ยวระยะไกลชะลอ
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกที่คาดว่าน่าจะสูงขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อต้นทุนการเดินทางผ่านเครื่องบิน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะไกล และเส้นทางการบินที่จะต้องบินอ้อม เนื่องจากไม่สามารถผ่านเส้นทางตะวันออกกลาง รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่อาจเกิดภาวะเงินเฟ้อ และทำให้รายได้ของประชากรโลกหดตัว
ภาครัฐควรมีมาตรการรองรับสำหรับตลาดระยะไกล ทั้งตะวันออกกลาง และยุโรปไว้ด้วย เนื่องจากข้อมูลของทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวฯล่าสุดระบุว่า ตลาดระยะไกลเติบโตได้ดีมาก หากไม่เตรียมมาตรการที่ดีรองรับอาจทำให้ตลาดได้รับผลกระทบซ้ำเติมตลาดจีนที่ยังชะลอตัวต่อเนื่องได้ในอนาคต
ภูเก็ตป่วน-ยกเลิกห้องพัก
นายศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีสงครามทำให้นักท่องเที่ยวของอิหร่านและอิสราเอลยกเลิกการเดินทางทั้งหมดรวมถึงบางประเทศในตะวันออกกลางมียกเลิกการจองห้องพักในเดือนกรกฎาคม 2568 แต่ถ้าเทียบกับจำนวนโดยรวมอาจจะไม่มาก เพราะว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของภูเก็ตและตอนนี้ตลาดหลักภูเก็ตจะเป็นอินเดีย รัสเซียออสเตรเลีย อังกฤษ
“กำลังเซอร์เวย์สมาชิกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ว่าสมาชิกโรงแรมใดได้รับผลกระทบอะไรบ้างจากสถานการณ์สงครามอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งที่ผ่านมาตลาดอิหร่านกับอิสราเอล จะเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตมากกว่าจังหวัดอื่นในภาคใต้ ส่วนกรุ๊ปต่อ ๆ ไป แจ้งมาว่าอาจจะต้องขอดูสถานการณ์ก่อน โดยไม่ต้องบล็อกห้องถ้ามีจะกลับมาจองใหม่
กาตาร์ฯยกเลิกบินภูเก็ต-โดฮา
นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า สายการบิน Qatar Airways ที่ทำการบินทุกวัน วันละ 2 เที่ยวบิน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ยกเลิกการบินจะไม่มีเที่ยวบิน ภูเก็ต-โดฮา ส่วนวันอื่นต้องรอทางสายการบินแจ้งมาอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสายการบินอิสราเอล 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ยกเลิกการบินมา 2 สัปดาห์แล้ว สายการบิน Mahan Air ของประเทศอิหร่าน ทำการบิน 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ภูเก็ต-เตหะราน ยกเลิกมาประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน