เวียดนามผวาโควิดตุนข้าว ตั้งทีมตรวจเล็งแบนส่งออก

จับตา “เวียดนาม” เคาะแบนส่งออกข้าว หลังแล้งทุบผลผลิตลด ประชาชนต้องการตุนสต๊อกรับมือโควิด-19 รัฐบาลตั้งทีมตรวจสอบด่วน ด้านเอกชนไทยลุ้นอานิสงส์สวมรับออร์เดอร์แทน

แหล่งข่าวจากวงการข้าวเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 เวียดนามออกหนังสือ มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า หารือกับกระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตร, ชนบท เพื่อตั้งคณะทำงานเข้าตรวจสอบหน่วยงานค้าข้าวท้องถิ่น และผู้ส่งออกรายใหญ่ของเวียดนาม เพื่อประเมินความต้องการของตลาดส่งออกข้าว และวงเงินหมุนเวียนในการส่งออกข้าว และรายงานต่อนายกรัฐมนตรีก่อนวันที่ 28 มีนาคมนี้

“ในระหว่างที่รอข้อสรุป ต้องระงับไม่ให้มีการซื้อขายใหม่ ส่วนสัญญาที่เซ็นไปแล้วและกำลังส่งมอบ จะพิจารณาหลังจากนายกรัฐมนตรีได้ฟังข้อสรุปจากคณะทำงานทั้ง 3 กระทรวงแล้ว โดยจะยึดหลักว่า ต้องมั่นใจว่ามีข้าวเพียงพอกับประชาชนในสถานการณ์ภัยแล้ง และโรคระบาดโควิดในขณะนี้”

สาเหตุสำคัญที่เวียดนามต้องออกมาทบทวนและประเมินสถานการณ์ส่งออก เนื่องจากผู้ส่งออกเวียดนามได้มีการรับคำสั่งซื้อไว้ล่วงหน้าปริมาณมาก ขณะที่ความต้องการสำรองข้าวของประชาชนก็เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ส่วนปริมาณผลผลิตมีแนวโน้มลดลงปัญหาแล้ง ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศปรับสูงขึ้นกว่าราคาในช่วงที่รับคำสั่งซื้อไว้ 60-70 เหรียญสหรัฐต่อตัน หากยังมีการส่งออกอาจจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และสภาพคล่องของผู้ประกอบการ ดังนั้นรัฐบาลจึงเตรียมวางแนวทางเพื่อให้มีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภคก่อน

แหล่งข่าวกล่าวว่า หากเวียดนามประกาศนโยบายชะลอการส่งออกจะส่งผลต่อตลาดข้าวโลกทันที เพราะปัจจุบันเวียดนามเป็นผู้ส่งออกอันดับ 3 ของโลก มีปริมาณการส่งออก 6.8 ล้านตัน รองจากไทย อันดับ 2 ปริมาณส่งออก 7.5 ล้านตัน และอินเดีย อันดับ 1 ส่งออก 10.6 ล้านตัน

“ผลจากประเด็นนี้อาจจะทำให้ผู้นำเข้าที่เคยสั่งซื้อจากเวียดนาม หันมาซื้อจากผู้ส่งออกรายอื่นรวมถึงไทยแทน ซึ่งขณะนี้มีผู้นำเข้า และเทรดเดอร์บางรายที่เริ่มไม่แน่ใจในสถานการณ์ ประสานเข้ามาที่ไทยเพื่อสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการสั่งซื้อแล้ว ในส่วนของไทย แม้ว่าจะมีปริมาณผลผลิตลดลง แต่ยังมีเพียงพอบริโภค เพราะส่วนการบริโภคในประเทศ ซึ่งเดิมจะมีกลุ่มครัวเรือน ร้านอาหาร ก็ลดลงจากนักท่องเที่ยวหายไปด้วย”

รายงานข่าวระบุว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 400,152 ตัน ลดลง 41.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 273 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 26.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การส่งออกข้าวในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) 2563 มีปริมาณส่งออก 947,304 ตัน ลดลง 42.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 584 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 30.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐ มูลค่า 100.72 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5.06% ฮ่องกง 40.32 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.49% แอฟริกาใต้ 36.78 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 21.23% จีน 30.67 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 37.92%  และแองโกลา 28.87 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.51% สำหรับราคาส่งออกปัจจุบัน ชนิดข้าวขาว 5% ของไทย ตันละ 510 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% เวียดนาม ตันละ 420-430 เหรียญสหรัฐ ส่วนอินเดียตันละ 350 เหรียญสหรัฐ