ไทยงัดข้าว “กข 79” สู้เวียดนาม โรงสีรับซื้อตันละเกือบ 1 หมื่นบาท

ไทยงัดข้าว

สมาคมผู้ส่งออกข้าวนำร่องปลูกข้าว กข 79 ลอตแรก 5,000 ไร่ เตรียมทำตลาดส่งออกเอเชียแข่งข้าวเวียดนาม หลังจากกระทรวงเกษตรฯตั้งเป้าปลูก 2 ล้านไร่ ด้านโรงสีพร้อมรับซื้อตามราคาตลาดตันละ 9,500 บาท

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในฤดูกาลผลิตข้าวปี 2563 จะเริ่มการเพาะปลูกข้าวขาวพื้นนุ่ม พันธุ์ข้าว กข 79 ซึ่งได้รับการรับรองพันธุ์แล้ว จำนวน 5,000 ไร่ ในพื้นที่บริเวณใกล้พื้นที่ชลประทาน โดยคาดว่าผลผลิตที่ได้ประมาณ 2,500 ตันข้าวสาร

โดยสมาคมมีเป้าหมายที่จะนำข้าวนุ่มดังกล่าวไปทดลองทำตลาด โดยเฉพาะตลาดเอเชีย จีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ผู้บริโภคตอบรับอย่างไรบ้าง เพราะผู้บริโภคในตลาดดังกล่าวนิยมบริโภคข้าวนุ่มมากเห็นได้จากข้าวนุ่มของเวียดนามที่ส่งออกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนราคาซื้อขายขึ้นอยู่กับตลาด แต่ประเมินว่าราคาจะอยู่ในระดับต่ำกว่าข้าวหอมมะลิและสูงกว่าข้าวขาว และข้าวหอมจังหวัด

สำหรับข้าว กข 79 เป็นพันธุ์ข้าวที่มีผลผลิตต่อไร่สูง 700-800 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนเรื่องการจัดทำมาตรฐานข้าว กข 79 ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศอยู่ระหว่างการตั้งคณะทำงานในการพิจารณาเรื่องนี้

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมได้ตั้งคณะทำงานเพื่อยกร่างมาตรฐานข้าว กข 79 โดยมีการเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ส่งออก โรงสีผู้ตรวจสอบคุณภาพ กรมวิชาการเกษตรกร กรมการข้าว เป็นต้น ยังไม่ได้วางกรอบจะต้องประกาศใช้เมื่อใด แต่การสร้างมาตรฐานข้าว กข 79 จะสร้างความเชื่อมั่นในการทำการตลาด ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพข้าวนุ่มของไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าข้าวไทยในอนาคต

สมาคมโรงสีข้าวไทย

ด้านนายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2563 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประชุมอนุกรรมการด้านการผลิตพันธุ์ข้าว เห็นชอบเป้าหมายการผลักดันการปลูกข้าว กข 79 ให้ได้ 2 ล้านไร่ โดยกำหนดให้ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้

ส่วนภาคอีสานไม่ได้กำหนดให้ปลูก เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิจึงไม่ต้องการให้ปะปนกัน หากเกษตรกรสนใจสามารถไปขอพันธุ์ข้าวจากศูนย์พันธุ์ข้าว และภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณรองรับความต้องการได้กว่า 5,000 ตัน ซึ่งจะสามารถลงแปลงปลูกได้ประมาณ 300,000 ไร่ ในฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2563

“ทางสมาคมโรงสีข้าวพร้อมรับซื้อผลผลิตข้าว กข 79 ทั้งหมด เนื่องจากมีช่องทางระบายข้าวทั้งตลาดในประเทศรวมถึงขายให้กับผู้ส่งออกข้าว เกษตรกรที่ปลูกข้าวพันธุ์ดังกล่าวจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีผู้รับซื้อ ส่วนราคาซื้อ-ขายนั้นขึ้นอยู่กับราคาตลาดตอนนี้ โดยโรงสีจะรับซื้อในราคาสูงสุดสำหรับข้าวที่มีคุณภาพ เมล็ดยาว สามารถรับซื้อข้าวเปลือกราคาสูงสุดตันละ 9,500-9,800 บาท โดยคาดว่าจะเริ่มปลูกในเดือนกรกฎาคม 2563 นี้ ใช้ระยะเวลา 120 วัน”

นายหัสดินกล่าวว่า การจัดทำมาตรฐานข้าวเป็นเรื่องดี แต่อาจต้องใช้เวลา เพราะมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อาทิ คุณภาพข้าว สี เมล็ด คุณภาพทางเคมี และอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาและหามาตรฐานที่ชัดเจน ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน คงต้องใช้ระยะเวลาไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจะยังคงทำการตลาดได้ตามปกติแม้ว่าจะยังไม่มีมาตรฐาน