5 เสือ ทุบราคายางร่วงเหลือ 40 กว่าบาท/กิโล

ยางพารา

5 เสือทุบราคายางร่วง หลังราคาขายล่วงหน้าอยู่ที่ 40 กว่าบาท วอนเกษตรกรอย่าตระหนกเทขาย แค่พักฐาน จีนยังต้องการยางจำนวนมาก กยท. เร่งหามาตรการดันราคา ชี้แนวโน้มยังสดใส

วันที่ 9 กันยายน 2563 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า กยท. ประชุมหารือเพื่อรับมือกับราคายางพาราที่ปรับตัวลดลง

ราคายางเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ปรับตัวลดลงเหลือ 56.10 บาท/ก.ก. ลดลงประมาณ 7% จากก่อนหน้าหยุดยาว 4 วัน ณ วันที่ 3 ก.ย. ราคาอยู่ที่ 59.90 บาท/ก.ก. ถือเป็นการปรับฐานหลังจากราคายางพาราขึ้นต่อเนื่องจนสร้างสถิติใหม่ในรอบ 3 ปี 2 เดือนที่ราคา 61.95 บาท/ก.ก.

กยท. อธิบายว่า การปรับตัวลงมีปัจจัยบางจากกลไกในด้านธุรกิจของเอกชน ที่ดำเนินการซื้อยางเพื่อส่งมอบ ตามสัญญาที่ได้ทำไว้ในราคาที่ไม่ถึง 50 บาท/ก.ก. แต่ กยท. ก็ได้ใช้กลไกตลาดของ กยท. เข้าซื้อดันราคาไม่ให้ดิ่งลงมาก

อย่างไรก็ดี การปรับตัวลดลงของราคายางในช่วงวันหยุดยาวนั้น เป็นการปรับฐานของราคา เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคายางมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงมีการปรับฐาน และในแง่ของปริมาณผลผลิตทางภาคใต้มีฝนตกค่อนข้างมาก ทำให้ผลผลิตที่ออกไม่มาก

ขณะเดียวกัน ปริมาณความต้องการของประเทศผู้ใช้อย่างจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้รายใหญ่ ก็ต้องมีปริมาณความต้องการใช้ยางเคลื่อนตัวแบบวีเชฟ ความต้องการใช้เพิ่ม ในขณะปริมาณสต็อกก็ลดลง

ทั้งนี้ ความต้องการใช้ยางยังมีอยู่ ฉะนั้นในเรื่องของราคาที่ปรับลดลงไม่มีอะไรที่น่ากังวลหรือมีความผิดปกติเกิดขึ้น และเป็นไปตามกลไกตลาด เกษตรกร ในช่วงที่ราคายางขึ้นและปรับตัวลง ก็อาจจะทำให้เกิดความตกใจและมีการเทขาย ก็ยิ่งทำให้ราคายิ่งต่ำลงไปได้และทำให้ตลาดทำกำไรกันได้ง่ายขึ้น

“ขอให้เกษตรกรอย่ากังวลเกี่ยวกับราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงแรง เนื่องจากผลผลิตยางพาราในตลาดมีน้อย เพราะเป็นช่วงฝนตก และแรงงาน ที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานพม่า เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้กลับมาทำงานไม่ได้ ขณะที่ความต้องการยางพาราของจีนยังมีอยู่มาก เมื่อในสวนของเกษตรกรไม่มียางพารา พ่อค้าที่ต้องซื้อยางเพื่อส่งมอบ และส่งออก อย่างไรเสียก็ต้องซื้อ ขอวิงวอนชาวสวนอย่างตระหนกไป เพราะแนวโน้มราคายางยังเป็นขาขึ้น”

นายณกรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ กยท. ได้เข้าไปดูแลราคายางพาราของเกษตรกรแล้ว ราคาอาจปรับตัวลดลงบ้าง แต่อีกไม่นานราคาจะสูงขึ้น ยางแผ่นรมควันชั้น 3 สามารถเก็บได้นาน เกษตรกรจึงไม่ควรเทขายยางพาราออกไป และนอกจากความต้องการใช้ยางทั้งยางแผ่นดิบและน้ำยางที่เพิ่มขึ้นจากแรงซื้อต่างชาติแล้ว นโยบายของรัฐบาลก็ทำให้มีการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมด้วย ทั้งกรณีแบริเออร์ที่เริ่มดำเนินการแล้ว รวมถึงโครงการถนนยางพารา เป็นต้น

รายงานข่าวจากระบุ การปรับตัวของราคายางพาราช่วงวันหยุดยาว ที่ กยท. หยุดทำการ กดราคา เพื่อจะได้นำยางพาราไปส่งมอบ ตามสัญญาที่ขายล่วงหน้าไว้ 40 กว่าบาท/ก.ก. เพื่อให้สัญญาล่วงหน้าของเอกชน ผู้ส่งออกไม่ขาดทุน

สำหรับ บริษัทผู้ส่งออกเอกชนรายใหญ่ของประเทศ ได้แก่ 1.บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด 3.บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) และ 5.บริษัท เซาท์แลนด์ รับเบอร์ จำกัด