จ่อชง ครม.เคาะประกันรายได้ยางพาราปี 3 หมื่นล้าน

ชาวสวนยางเฮ ! จุรินทร์-เฉลิมชัย เตรียมดันประกันรายได้ยางพาราปี 3 เข้า ครม. “ใช้หมื่นล้านช่วยชาวสวนยาง”

วันที่ 15 กันยายน 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ครั้งที่ 1/64 ผ่านระบบการประชุมออนไลน์ โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 3 หรือประกันรายได้ยางพาราปีที่ 3 โดยมีหลักเกณฑ์เหมือนปีที่ผ่านมา

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

ซึ่งจะเริ่มประกันรายได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564-มีนาคม 2565 แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวนร้อยละ 60 และคนกรีดร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด รายละไม่เกิน 25 ไร่ ประกันรายได้ราคายางแผ่นดิบคุณภาพดี 60.00 บาท/กิโลกรัม ประกันรายได้ราคาน้ำยางสด (DRC 100%) 57.00 บาท/กิโลกรัม ประกันรายได้ราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23.00 บาท/กิโลกรัมงบประมาณ วงเงินรวมทั้งสิ้น 10,065.68 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดําเนินการจัดทํารายละเอียดโครงการเพื่อนําเสนอ คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

นายนายจุรินทร์กล่าวว่า การที่คณะกรรมการยางธรรมชาติให้ความเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางในวันนี้ถือว่าเป็นการเดินหน้าประกันรายได้ยาง ปีที่ 3 ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรชาวสวนยางเกือบ 2,000,000 ครัวเรือน และใช้เงินทั้งสิ้น 10,065 ล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยางมีหลักประกันในเรื่องรายได้จากการขายยางตามรายได้ที่ประกันแม้ในยามที่ราคายางตกลงมาในบางช่วง

ขณะนี้ถือว่าราคายางอยู่ในเกณฑ์ดีโดยเฉพาะยางก้อนถ้วย เพราะเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเกษตรกรขายยางก้อนถ้วย หรือ ขี้ยางได้ราคา 10-15 บาท แต่ว่าวันนี้ราคายางก้อนถ้วยสูงขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 22-25 บาทโดยประมาณ ซึ่งถือว่าบางช่วงก็สูงกว่ารายได้ที่ประกัน ซึ่งอยู่ที่ 23 บาท

“เพราะฉะนั้นถือว่าราคายางก้อนถ้วยดีขึ้นมากและทรงตัวอยู่นานแล้ว เป็นผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกยางทั้งภาคใต้และภาคอีสานและทั่วประเทศ ส่วนราคาน้ำยางที่ตกลงมาบ้างในช่วงนี้เป็นเพราะมาเลเซียซึ่งเป็นตลาดส่งออกน้ำยางรายใหญ่ของไทยประสบปัญหาโควิด ทำให้โรงงานผลิตถุงมือยางต้องปิดตัวลงไป และการส่งน้ำยางข้ามแดนติดขัดจากมาตรการล็อกดาวน์ เพราะฉะนั้นส่งผลให้ราคาน้ำยางตกลงไปบ้าง

แต่คาดว่าเมื่อมาเลเซียสามารถแก้ปัญหาโควิดคลี่คลายโอกาสที่ราคาน้ำยางจากกระเตื้องขึ้นก็มีมาก นอกจากนั้นโรงงานผลิตถุงมือยางในไทยก็ติดโควิดทำให้การผลิตไม่สามารถดำเนินการได้เต็มร้อยความต้องการน้ำยางจึงลดลงส่งผลกระทบต่อราคาน้ำยาง”

พร้อมกันนี้ ตนได้เสนอเรื่องโครงการประกันรายได้ปี 3 เข้าสู่ที่ประชุม ครม.รอการพิจารณาอยู่ทั้งประกันรายได้ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด ส่วนยางถือว่าเป็นตัวที่ 4 และถัดจากนี้ก็จะได้เสนอในเรื่องของการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มต่อไป

นอกจากนั้น รายงานข่าวการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ระบุว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในหลักการขอรับเงินอุดหนุนและส่งเสริมสนับสนุนการปลูกแทนเพิ่มเติม โครงการควบคุมปริมาณการผลิต คือ เห็นชอบในหลักการการขยายระยะเวลาการดําเนินการจากปี 2558-2564 เป็นปี 2558-2566 โดยดําเนินการลดพื้นที่ปลูกยางพารา จํานวน 450,000 ไร่ แบ่งเป็นลดพื้นที่ปลูกยางพารา ปี 2565 จํานวน 225,000 ไร่ และปี 2566 จํานวน 225,000 ไร่ วงเงินงบประมาณ 7,200 ล้านบาท โดยให้ กยท.ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2565-2573

ทั้งนี้การเบิกจ่ายเป็นไปตามภาระที่เกิดขึ้นจริงแต่ไม่เกินกรอบงบประมาณที่กําหนด เห็นชอบในหลักการขอรับจัดสรรงบประมาณที่ได้ดําเนินการเพิ่มเติมไปแล้ว ซึ่งดําเนินการตามนโยบายการลดพื้นที่ปลูกยางพาราของรัฐ ในการส่งเสริมลดพื้นที่ปลูกยางพารา ปี 2558-2563 จํานวน 911,751 ไร่ จํานวนเงิน 14,588 ล้านบาท ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย ดําเนินการจัดทํารายละเอียดโครงการเพื่อนําเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบในหลักการโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) เพื่อรับซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท จากเดิมให้สินเชื่อไปซื้อไม้ยาง ปรับเป็นให้คลอบคลุมสินเชื่อซื้อไม้ยาง และขยายกำลังการผลิต การปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ระยะเวลาดําเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564-ธันวาคม 2565 ระยะเวลาในการชดเชยดอกเบี้ย ตามโครงการ 1 ปี นับตั้งแต่ได้รับอนุมัติ แต่ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2565 กรอบวงเงินชดเชย ดอกเบี้ย 603 ล้านบาท

โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะทํางาน ดําเนินการโครงการชุดต่าง ๆ และจัดทํารายละเอียดโครงการเพื่อนําเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

และเห็นชอบทบทวน กรณีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 เกี่ยวกับการมอบหมายหน่วยงานขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปี เพื่อจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้เข้าร่วม โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท

โดยมอบหมายให้การยางแห่งประเทศไทย ทําหน้าที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปี เพื่อจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ จํานวน 42 ล้านบาท และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย ดําเนินการจัดทํารายละเอียดโครงการเพื่อนําเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป เห็นชอบอนุมัติปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์

ข้อเสนอเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสนับสนุนสินเชื่อ เป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ได้แก่ 1) ชดเชยดอกเบี้ยสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อไม้ยาง และหรือชดเชยดอกเบี้ยสินเชื่อ เกี่ยวข้องกับการดําเนินงานกิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการขยายกําลังการผลิต/ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร การผลิต ณ ที่ตั้งเดิมหรือที่ตั้งใหม่ เพื่อใช้ในการประกอบกิจการ 2) ผู้ประกอบการจะต้องมีสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและหรือสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงาน กิจการไม้ยางและผลิตภัณฑ์ โดยให้หารือกับกระทรวงการคลังไปใช้ในประมาณประจำปี’65 เพื่อนำเสนอ ครม. ต่อไป

นอกรอบได้มีการอนุมัติเพิ่มองค์ประกอบในคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ข้อเสนอเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบเพิ่มนายกสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ เป็นกรรมการในองค์ประกอบ กนย. และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย ดําเนินการจัดทํารายละเอียด เพื่อนําเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

และเห็นชอบในหลักการขออนุมัติเพิ่มองค์ประกอบในคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี ข้อเสนอเพื่อพิจารณา ให้ความเห็นชอบแต่งตั้งผู้อํานวยการสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี เพิ่มเติม และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการยางแห่งประเทศไทย ยกร่างองค์ประกอบคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปีเพิ่มเติม เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน กนย. เพื่อพิจารณาลงนามต่อไปด้วย