บีโอไอ จับมือ เจโทร ขยายโอกาสการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น

บีโอไอ

บีโอไอลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOC) เป็นภาคีกับเจโทร ส่งเสริมและขยายโอกาสการลงทุนระหว่างไทย – ญี่ปุ่น สนับสนุนการเชื่อมโยง จับคู่ธุรกิจ ตลอดจนต่อยอดเทคโนโลยีขั้นสูง การวิจัยและพัฒนา เพื่อมุ่งยกระดับประเทศไทยตามแนวทาง BCG

วันที่ 14 มกราคม 2565 นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอ และองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOC) เพื่อส่งเสริมการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยแบบภาคี ให้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ในการส่งเสริมให้บริษัทญี่ปุ่นที่ประกอบกิจการในประเทศไทยขยายการลงทุนเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลงทุนด้านเทคโนโลยีขั้นสูง การวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมในประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการเผยแพร่ข่าวสารที่ทันสมัย และเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น การจับคู่ธุรกิจ และต่อยอดโครงการลงทุนที่ประสบความสำเร็จในอนาคต

“ความร่วมมือเป็นภาคีในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการบรรลุเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการลงทุนระหว่างสองประเทศอย่างใกล้ชิดมากขึ้น รวมถึงการมีส่วนร่วมในนโยบายสำคัญในการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่น รวมทั้งผลักดันนโยบาย BCG ของรัฐบาล เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต” นางสาวดวงใจกล่าว

สำหรับการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น โดยมีนายฮากิอุดะ โคอิจิ (H.E. HAGIUDA Koichi) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนาม

โดยนางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายทาเคทานิ อัทสึชิ (Mr. TAKETANI Atsushi) ประธาน เจโทร กรุงเทพฯ เป็นผู้ลงนามฝ่ายญี่ปุ่น

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการลงทุนโดยตรง (FDI) ในประเทศไทยสูงสุดเป็นอันดับ 1 โดยในปี 2564 มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 178 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 22.7 จากโครงการลงทุนต่างประเทศทั้งหมด มูลค่าเงินลงทุนรวม 80,733 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.7 ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

ขณะที่การลงทุนในอุตสาหกรรม BCG ในช่วงปี 2564 มีมูลค่าขอรับการส่งเสริม 152,434 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.7 จากมูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งหมด สำหรับอุตสาหกรรม BCG ครอบคลุมพลังงานสะอาด อุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยี ฯลฯ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยให้ความสำคัญเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังการระบาดของโควิด-19

ADVERTISMENT