อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเผยข่าวดีปี 2564 ส่งออกมันสำปะหลังไทยมูลค่า 123,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% สูงสุดในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่ปี 2550 ครองความเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและการค้ามันสำปะหลังคุณภาพอันดับหนึ่งของโลกอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2564 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังปริมาณสูงถึง 10.38 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 45% มีมูลค่า 123,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกหลักที่ไทยส่งออกมากที่สุดคือ จีน (69%) รองลงมาได้แก่ ญี่ปุ่น (8%) อินโดนีเซีย (3%) เกาหลีใต้ (2%) และอื่นๆ (18%)
ส่งผลให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดในประเทศ ปีการผลิตปี 2564/65 มีเสถียรภาพ โดยปัจจุบันราคาเฉลี่ย 2.55 บาท/กิโลกรัม (กก.) เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก โดยการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เพิ่มสูงขึ้น
สาเหตุหลักเกิดจากปีที่ผ่านมาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของจีนอยู่ในระดับราคาที่สูงและมีความต้องการนำมันสำปะหลังไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลกอฮอล์สำหรับอุตสาหกรรมสุขภาพอนามัย (Sanitary) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับปี 2565 ได้เร่งดำเนินงานตามพันธกิจด้านการตลาดต่างประเทศ ในการส่งเสริมการส่งออก อาทิ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรแปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลังเพื่อสร้างการรับรู้ให้กลุ่มผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ประชุมเจรจาขยายตลาดผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับผู้ส่งออกและผู้ซื้อมันสำปะหลังในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลังนำร่อง ได้แก่ พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) และแป้งฟลาวมันสำปะหลังไปตลาดต่างประเทศ เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น ผ่านกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ การจับคู่ธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ (OBM) และสื่อประชาสัมพันธ์โฆษณา (Advertorial) ตลอดจนการเชื่อมโยงงานวิจัยระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานวิจัย เพื่อพัฒนาต่อยอดให้เกิดมูลค่าเพิ่มอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากการส่งเสริมการส่งออกมันสำปะหลังแล้ว กรมฯ ยังได้แก้ไขปัญหาทางการค้าประเด็นจีนกำหนดให้แป้งมันสำปะหลังพิกัด 1108.14 ต้องขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหารก่อนส่งออกไปจีนโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ส่งผลให้สินค้าแป้งมันสำปะหลังจำนวนมากที่ส่งออกไปจีนตกค้างอยู่ที่ท่าเรือฝั่งจีน ซึ่ง คต. ได้เร่งประสานสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยปัจจุบันผู้นำเข้าจีนสามารถนำของออกจากด่านศุลกากรได้แล้วกว่าร้อยละ 66 ของสินค้าแป้งมันสำปะหลังที่ส่งไปจีน
อย่างไรก็ดี ยังมีสินค้าแป้งมันสำปะหลังตกค้างอยู่ที่ท่าเรือของจีน ซึ่งศุลกากรจีนได้เร่งพิจารณาอนุมัติขึ้นทะเบียนเพื่อตรวจปล่อยต่อไป กรมฯ จะได้ติดตามแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยประเด็นดังกล่าวเป็นไปตามพันธกิจด้านการตลาดต่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า
นอกจากนี้ กรมฯ ได้เข้มงวดการกำกับดูแลคุณภาพมันสำปะหลังที่นำเข้าส่งออก เพื่อให้ประเทศผู้ซื้อมีความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพมาตรฐานสินค้ามันสำปะหลังของไทย สามารถส่งออกสินค้าสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศได้อย่างต่อเนื่องและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลกต่อไป