เชฟรอนประกาศพร้อมส่งมอบแหล่งเอราวัณให้ ปตท.สผ.อีดี 23 เม.ย.นี้

เชฟรอนส่งมอบแหล่งเอราวัณ

CEO เชฟรอนประกาศพร้อมส่งมอบแหล่งเอราวัณ 23 เม.ย.นี้ ลั่นภาคภูมิใจเวลากว่า 4 ทศวรรษช่วยขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วางรากฐานอุตสาหกรรมปิโตรเลียมไทย ลุยจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการ แหล่งสัมปทานกลางอ่าวไทยร่วมทุกฝ่าย หลังลงนามข้อตกลง 4 ฉบับ ปตท.สผ. อีดี

วันที่ 21 เมษายน 2565 รายงานข่าวระบุ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ประกาศความพร้อมในการส่งมอบแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณด้วยความปลอดภัยในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 โดยได้มีการจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการส่งมอบ (Transfer Support Center) เพื่อให้การส่งมอบเป็นไปด้วยความปลอดภัยและราบรื่น

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ. อีดี ในการลงนามข้อตกลงการโอนและแก้ไขสัญญาเช่าเรือกักเก็บปิโตรเลียมเอราวัณ 2 (Deed of Novation and Amendment of Erawan 2 Floating Storage and Offloading Vessel [E2FSO] Bareboat Charterparty) ข้อตกลงในการใช้เรือกักเก็บปิโตรเลียมปัตตานี ในพื้นที่โครงการ G1/61 (Pattani Floating Storage and Offloading Vessel [PFSO] G1/61 Access and Service Agreement) ข้อตกลงการใช้สิ่งติดตั้งร่วมกัน (Joint Utilization Facilities Agreement หรือ JUFA) และข้อตกลงในการให้การสนับสนุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (Operation and Maintenance Support Agreement)

ซึ่งเป็นการเตรียมการที่สำคัญในการส่งมอบแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณด้วยความปลอดภัยในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 ให้กับ ปตท.สผ. อีดี และเพื่อสนับสนุนภารกิจของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

ทั้งนี้ ภายหลังจากการส่งมอบดังกล่าว แหล่งเอราวัณที่ดำเนินการโดยเชฟรอนภายใต้สัญญาสัมปทาน จะเปลี่ยนผ่านเป็นแปลงสำรวจปิโตรเลียม G1/61 ที่ดำเนินการโดย ปตท.สผ. อีดี ภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract หรือ PSC)ในฐานะผู้ดำเนินงานของแหล่งเอราวัณด้วยความรับผิดชอบตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชฟรอนได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ ในสัญญาสัมปทานอย่างครบถ้วน และได้มีการตระเตรียมความพร้อมการส่งมอบในทุกด้าน

ทั้งด้านแผนงาน ข้อมูล กำลังคน และอุปกรณ์ รวมถึงยังได้มีการจัดเตรียมและทบทวนแผนการดำเนินงานกับทุกหน่วยปฏิบัติงานภายในเชฟรอนเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ เชฟรอนได้จัดการฝึกซ้อมการรับมือแผนฉุกเฉินโดยจำลองในสถานการณ์ต่าง ๆ (desk top exercises) หลายครั้ง ร่วมกับทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและ ปตท.สผ. อีดี เพื่อทดสอบความพร้อมในการการส่งมอบ รวมถึงฝึกการรับมือในกรณีฉุกเฉินด้วย

โดยศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการส่งมอบของเชฟรอนจัดตั้งขึ้นที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานคร และจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18-24 เมษายน 2565 เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการในการส่งมอบแหล่งสัมปทาน โดยการทำงานของศูนย์สนับสนุนดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากทาง ปตท.สผ. อีดี และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่จากทั้งสองหน่วยงานทำงานร่วมกันกับเชฟรอน ณ สถานที่ปฏิบัติงานจริงกลางอ่าวไทย เพื่อให้มั่นใจว่าการส่งมอบจะเป็นไปอย่างราบรื่น

นอกจากนี้ เชฟรอนยังจะให้การสนับสนุนการทำงานของศูนย์กำกับ ติดตาม ควบคุมสถานการณ์การเปลี่ยนผ่านระบบและการส่งต่อความรับผิดชอบจากผู้รับสัมปทานเป็นผู้รับสัญญา (War Room) ที่จัดตั้งขึ้นโดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน อย่างเต็มกำลัง ในระหว่างวันที่ 23 เมษายน 2565 เวลา 18.00น. ถึงวันที่ 24 เมษายน 2565 เวลา 03.00 น. ร่วมกับตัวแทนจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ปตท.สผ. อีดี และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

พร้อมกันนี้ ข้อตกลงทั้ง 4 ฉบับที่ได้ลงนามไปล่าสุดนั้น ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่ช่วยให้การส่งมอบแหล่งเอราวัณสำเร็จลุล่วงอย่างปลอดภัย รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานของทั้งสองฝ่ายในการจัดหาพลังงานอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ ภายหลังการเปลี่ยนผ่านแหล่งเอราวัณ โดยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการเรือกักเก็บปิโตรเลียมทั้ง E2FSO และ PFSO ที่ทำหน้าที่สำคัญในการกักเก็บปิโตรเลียมทั้งจากแหล่งปิโตรเลียมภายในพื้นที่โครงการ G1/61 และจากแหล่งอื่น ๆ ในอ่าวไทย

รวมถึงข้อตกลงการใช้ประโยชน์ร่วมกันสำหรับสิ่งติดตั้ง และการสนับสนุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา จะช่วยสนับสนุนให้การผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยของทั้งปตท.สผ. อีดี และเชฟรอนดำเนินการต่อไปได้ด้วยความปลอดภัย

นายชาทิตย์ ห้วยหงษ์ทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า เชฟรอนมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อส่งมอบแหล่งเอราวัณอย่างปลอดภัยในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 โดยที่ผ่านมาบุคลากรของเราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับบริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ ปตท.สผ. อีดี และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อเตรียมการส่งมอบการดำเนินงานของแหล่งเอราวัณ และบริษัทฯ มั่นใจถึงความพร้อมในการดำเนินงานส่งมอบที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน 2565 นี้

ทั้งนี้ การลงนามข้อตกลงทั้ง 4 ฉบับล่าสุดนี้ นับเป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเชฟรอนและความร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในฐานะตัวแทนของบริษัทฯ ผมขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และปตท.สผ. อีดี เพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งมอบแหล่งเอราวัณให้สำเร็จลุล่วงด้วยความปลอดภัย

“เอราวัณ เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติแห่งแรกในอ่าวไทย ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ไทยสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานได้มากขึ้น และยังเป็นเหมือนโรงเรียนพลังงานกลางอ่าวไทยที่ช่วยพัฒนาบุคลากรในสาขาปิโตรเลียมให้กับประเทศจำนวนมาก จึงเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของเชฟรอนที่ได้สร้างและดำเนินงานแหล่งเอราวัณมากว่า 40 ปี ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมควบคู่ไปกับการสร้างบุคลากรชาวไทยและวางรากฐานอุตสาหกรรมปิโตรเลียมของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากความทุ่มเทของพนักงานเชฟรอนและพนักงานบริษัทผู้รับเหมาทุกคนทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่อุทิศตนทำงานเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานด้วยความปลอดภัยให้กับประเทศมาตลอดกว่า 4 ทศวรรษ”

หลังจากนี้ เชฟรอนยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการจัดหาพลังงานที่สะอาด อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ให้กับประเทศไทย ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของประเทศต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการส่งผ่านแหล่งเอราวัณเป็นกระบวนการที่มีความท้าทายด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ที่ซับซ้อน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้ประสานความร่วมมือกับปตท.สผ. อีดี และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จนสามารถบรรลุข้อตกลงที่มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานของแหล่งเอราวัณร่วมกันหลายประการ เพื่อบรรลุเป้าหมายของการส่งมอบแหล่งเอราวัณให้สำเร็จลุล่วงด้วยความปลอดภัยตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญาสัมปทานปิโตรเลียม ตลอดจนสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของประเทศต่อไปในอนาคต