เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 กรกฏาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พื้นที่เขต 6 นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม เร่งรัดสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า เดินทางตรวจเยี่ยมโกดังเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า จ.สุโขทัย โดยมี พ.ต.อ.กษิดิศ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผอ.ป.ป.ท.เขต 6 รายงานข้อมูลการดำเนินคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า โครงการรับจำนำข้าวปี 2551-2557
พ.ต.อ.กษิดิศ กล่าวว่า ปปท.เขต 6 ลงพื้นตรวจโกดังเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2551-2557 พบว่ามีความเสียหายในการเก็บรักษา และเป็นข้าวเก่า นอกจากนี้ยังพบว่าข้าวมาจาก จ.พิษณุโลก ซึ่งไม่ใช่ข้าวของ จ.สุโขทัย
พ.ต.อ.กษิดิศกล่าวว่า จากคดีที่ ป.ป.ท.เข้าไปดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า ซึ่งเป็นข้าวในโครงการต่างๆตั้งแต่ปี 2551-2557 รวมทั้งสิ้น 990 คดี ป.ป.ท.เขต 6 รับผิดชอบ 506 คดี สำหรับข้อมูลคดีข้าวในเขต 6 ในพื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย 1.กำแพงเพชร รวม 102 คดี 2.นครสวรรค์ รวม 201 คดี 3.พิจิตร รวม 60 คดี 4.พิษณุโลก รวม 56 คดี 5.เพชรบรูณ์ รวม 46 คดี 6.สุโขทัย รวม 12 คดี 7.อุตรดิตถ์ รวม 2 คดี และ 8.อุทัยธานี รวม 27คดี รวม 506 คดี
พ.ต.อ.กษิดิศ กล่าว่า สำหรับพื้นที่ลงตรวจสอบครั้งนี้ เป็นคลังชินธนทรัพย์ หลังที่ 1 อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เข้าร่วมโครงการปี 2555/56 กับองค์การคลังสินค้า (อคส) กระทรวงพาณิชย์เก็บข้าวขาว 5% แต่ในคลังพบข้าวบางส่วนเป็นปี 2552, ปี 2553, ปรัง 2555 และมาจาก จ.พิษณุโลก ซึ่งไม่ใช่ข้าวของจังหวัดสุโขทัย ข้าวมีสภาพเก่าและเป็นปลายข้าว ไม่ใช่ข้าวขาว 5% ตามโครงการฯ
“ข้าวที่ร่วมโครงการฯจะสามารถทราบได้ด้วยตาเปล่าทันทีว่าเป็นข้าวโครงการปีใด ข้าวชนิดใด และมาจากจังหวัดใด เพราะจะระบุไว้บนกระสอบทุกใบ และยังมีสีเชือกที่ระบุว่าโครงการฯใด ซึ่งมีสีแตกต่างกัน” พ.ต.อ.กษิดิศกล่าวและว่า เจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นกรณีเวียนเทียนข้าวเก่า ที่ได้มีการระบายในปีก่อนหน้าในราคาต่ำจากจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดสุโขทัย แล้วนำมาเข้าโครงการ 55/56 ในราคาข้าวใหม่ หรือนำข้าวเก่ามาสวม
ด้านนายประยงค์ กล่าวว่า คดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้ามีทั่วประเทศ 990 คดี แต่อยู่ในพื้นที่ เขต 6 รวม8 จังหวัดจำนวน 506 คดี ซึ่งมีปริมาณเยอะมาก มีมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 9 หมื่นกว่าล้านบาทจากแสนกว่าล้านบาท โดยพบทุจริตมากสุด คือ จ.นครสวรรค์ จ.สุโขทัย และ จ.กำแพงเพชร ซึ่งพฤติการณ์น่าเป็นห่วงและมีปัญหาเชิงระบบ หากเกิดปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายในอนาคต จึงควรมาต้องทำการศึกษาอย่างถ่องแท้เพราะว่าถ้าปล่อยไว้มันเป็นปัญหาในระยะยาว
นายประยงค์กล่าวว่า ปปท.ต้องมาศึกษาเพื่อจะนำไปแก้ปัญหาและศึกษาพฤติกรรม รูปแบบพฤติกรรมเพื่อจะนำไปป้องกันการทุจริตในระยะยาวเพราะประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและยังไร้ที่ทำกินเพราะถ้ามีโครงการใหม่ในลักษณะนี้มาอีกมันก็จะเกิดการทุจริตอีก ทั้งนี้ การดำเนินการ ป.ป.ท. ที่ปรากฎเป็นข่าวเกี่ยวกับโครงการจำนำปี 2554-2557 แต่ที่ ป.ป.ท.เริ่มทำเป็นของปี 2551 เป็นต้นมา เพราะฉะนั้นจำนวนคดีจึงมีเยอะ เพราะเป็นโครงการเก็บรักษาข้าว และในส่วนของจำนวนข้าวได้ไปตรวจสอบระหว่างนี้ก็กังวล เพราะสื่อเห็นว่ามีจำนวนเยอะเกินไป
“ยืนยันว่าในแต่ละคดีตัวเลขไม่ผิดอาจจะเป็นตัวเลขรวมที่อาจจะนำมาใช้ในเชิงของการบริหารติดตามคดี ชึ่งแต่ละคดีจะเป็นข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่ที่ลงไปตรวจสอบ ซึ่งถ้าข้อมูลจะคลาดเคลื่อนบ้างก็เป็นส่วนของตัวเลขรวมที่จะเอาใช้ในเชิงบริหารการติดตามคดี เพราะในส่วนแต่ละคดีเป็นข้อมูลที่ได้จากทางคลังสินค้าและองค์การตลาดกล่าวโทษร้องทุกข์” เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า
ส่วนกรณีคลังสินค้าที่ประมูลข้าวบางส่วนมีข้อมูลขัดแย้งกันนั้น ในส่วนการระบายข้าวเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ที่จะดำเนินการและส่วนค่าเสียหายก็เป็นเรื่องของผู้เสียหายและเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่จะไปดำเนินการเช่นกัน สำหรับผู้ที่ถูกกล่าวหาจะต้องดูพฤติการณ์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้เกิดความเสียหายยังไงบ้างแล้วบุคคลนั้นก็ต้องรับผิดชอบอันนี้คือหลักการ
เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่าเบื้องต้นในส่วนของคณะอนุกรรมการต้องรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานจากทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ข้อเท็จริงและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาและเป็นธรรมกับประชาชนด้วยเพราะตอนนี้จริงๆแล้วแม้จะเป็นรายคดีก็จริง แต่ในภาพรวมของประเทศมันมีเยอะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประยงค์ พร้อมได้พาสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบ คลังเก็บสินค้าชินธนทรัพย์ 1 ม.10 ต.เกาะตาเลี้ยง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งรับผิดชอบในการเก็บรักษา ข้าวนาปี ข้าวขาว 5% แต่ในคลังพบข้าวบางส่วนกระสอบระบุว่า เป็นปี 2552 ปี 2553 ปรัง 2555 และพบบางกระสอบเป็นปลายข้าว เบื้องต้นพบความเสียหายเชิงระบบ และปริมาณ ซึ่งคลังดังกล่าว ทาง อคส.ได้ เช่าบริษัทเอกชนเก็บรักษา
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายประยงค์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบคลังชินธนทรัพย์ หลังที่ 1 อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย โดยสภาพภายในคลังเก็บข้าวพบมีกระสอบข้าวจำนวนมากที่อยู่ในสภาพเก่าบางถุงมีร่อยฉีกขาด และมีข้าวหล่นกระจ่ายอยู่รอบบริเวณ
นายประยงค์กล่าวสำหรับคลังชินธนทรัพย์แห่งนี้ มีพฤติการณ์ที่จะทำให้เกิดความเสียหายในเชิงระบบในระยะยาว โดยโครงการนี้เป็นการเช่าโกดังเพื่อเก็บรักษาข้าวในปี 2555/2556 เป็นโครงการจำนำข้าวนาปี และเป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ มีทั้งหมด 2.9 แสนกระสอบ ซึ่งตอนนี้มีการระบายออกไปเยอะแล้ว เหลือเพียง 4-5 หมื่นกระสอบ จากข้อเท็จริงของการไต่สวนและสังเกตการณ์ มีเหตุบ่งบอกหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามสัญญา คือ มีกระสอบข้าวที่พ่นสีไว้ข้างกระสอบว่าเป็นข้าวนาปรัง ปี 51/52 และมีปลายข้าวผสมอยู่ปี 51/52 และปี 53 ซึ่งลักษณะการกระทำอย่างนี้บ่งบอกว่าเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งไม่สามารถกระทำได้ เพราะมีทั้งคนส่ง คนรับ และคนเฝ้าคลัง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถ้าไม่หาทางป้องกันต่อไปก็จะเกิดอีก จึงต้องมาตรวจสอบในวันนี้
เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวต่อว่า พอมาเห็นสภาพแล้วน่าจะบ่งบอกได้ว่าเป็นการร่วมมือกันตั้งแต่ต้นทุกฝ่าย มีการวางแผนการตั้งแต่ต้นหรือไม่ เพราะดูแล้วรัฐมีขั้นตอนการดำเนินการ คือ ตั้งแต่รับจำนำ แปรสภาพ ขนส่ง จำหน่าย ซึ่งลักษณะอย่างนี้ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ปกติไม่กล้าทำหรอก เพราะถ้าทำสักวันหนึ่งหากมีการจำหน่ายเรื่องก็จะถูกเปิดเผย แต่ปัญหาคือทำไมกล้าทำ ถ้าไม่มีการตรวจสอบพบก่อน เมื่อมีการจ่ายข้าวออกไป ก็จะไม่มีร่องรอย ดังนั้น จึงได้มาดูข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การป้องกันไม่ให้เกิดต่อไปในภายภาคหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบเหมือนมีลักษณะการนำข้าวออกไปสลับกันเวียนเทียนขายหรือไม่ นายประยงค์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบมีข้าวเก่าปี 2551/2552 จึงตรวจสอบว่ามีการนำข้าวเก่ามาส่งหรือไม่ หรือเพียงแค่นำกระสอบมาใส่เพราะโครงการในลักษณะอย่างนี้จะต้องมีกระสอบเฉพาะ ทำตราสัญลักษณ์ชัดเจนว่าเป็นข้าวปีไหนอย่างไร ตอนนี้บางกระสอบก็พบระบุ บางกระสอบก็ไม่มี ซึ่งต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
ถามต่อว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องหรือยัง นายประยงค์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีบุคคลใดบ้างที่ต้องเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้รับผิดชอบคนเดิมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อคส. ได้เกษียณราชการไปแล้ว ซึ่งไม่มีผลในคดีอาญาที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ หากมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนลักษณะนี้มีเกิดขึ้นที่อื่นอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังพบใน จ.สุโขทัย 12 คดี ส่วนที่อื่นที่เราเคยตรวจพบก็จะมีจำพวกการนำข้าวอื่นมาเก็บ มีการล้อมกองข้าวด้วยการนำเอานั่งร้างมาตั้งไว้ตรงกลางและใช้กระสอบข้าวล้อมไว้
รายงานข่าวแจ้งว่าพื้นที่ จ.สุโขทัยมีคดีอยู่ระหว่างดำเนินคดีอยู่ 12 คดี เป็นเจ้าหน้าที่ อคส.เป็นผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 8 คดี เจ้าหน้าที่ อตก. เป็นผู้ถูกล่าวหา 4 คดี สำหรับกรณีของคลังชินธนทรัพย์ 1 ซึ่งมีห้างหุ้นส่วนจำกัดชินธนทรัพย์ เข้าทำสัญญาให้เช่าคลังสินค้าในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ในปีการผลิต 2555/2556 กับ อคส. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 โดยมีพื้นที่เก็บข้าวสารได้ประมาณ 7,500 ตารางเมตร หรือ 303,750 กระสอบ ทั้งนี้ คณะทำงาน พบว่าคลังสินค้าชินธนทรัพย์ หลังที่ 1 มีข้าวไม่ตรงตามมาตรฐาน และพบกระสอบข้าวที่แสดงรหัสหรือสีเชือกที่ไม่ตรงตามที่องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้กำหนด โดยที่ถูกต้องจะต้องเป็นของปีการผลิต 2555/2556 แต่กลับพบของปีการผลิต 2551, นาปรัง 2552, นาปรัง 2555 และกระสอบไม่มีรหัสแสดงปีการผลิต ทั้งนี้ มีปริมาณข้าวประมาณ 300,000 กระสอบ มูลค่าความเสียหาย 800 ล้านบาท
ที่มา : มติชนออนไลน์