อุ้มเบนซิน 1 เดือน ลดราคาขายปลีกโซฮอล์ 91-95 สูงสุด 1 บาท มีผล 7 มิ.ย.

หัวจ่ายน้ำมัน

มติ กบน. หวั่นประชาชนช้ำหนักลดเงินจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันส่วนของเบนซิน 1 เดือน ทำราคาน้ำมันเบนซิน 91-95 และ E20 ลดลงได้สูงสุด 1 บาท มีผลพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) ด้านดีเซลต้องปรับขึ้นอีก 1 บาท แตะ 34 บาท/ลิตร

วันที่ 6 มิถุนายน 2565 นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณามาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซิน โดยลดเงินจัดเก็บเข้ากองทุนน้ำมันในส่วนของแก๊สโซฮอล 91 และ 95 ลงลิตรละ 0.93 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 1.02 บาท เหลือ 0.09 บาท) และ E20 ลดลงลิตรละ 0.94 บาท (เดิมจัดเก็บลิตรละ 0.12 บาทปรับเป็นให้การชดเชย 0.82 บาท)

จะมีผลทำให้ราคาขายปลีกหน้าปั๊มลดลงประมาณ 1 บาท โดยจะมีผลทั้งการปรับราคาขายปลีกและการลดการจับเก็บเงินเข้ากองทุน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป เบื้องต้นมติที่ประชุมจะใช้แนวทางนี้ไป 1 เดือน (หรือสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2565) จากนั้นจะกลับมาพิจารณากันใหม่อีกครั้ง

“เบนซินราคาจะลดลงได้ถึง 1 บาทหรือไม่ เราต้องคุยกับผู้ค้าบ่ายนี้และขอดูราคาตอนเย็นวันนี้ก่อน (6 มิ.ย. 2565) ว่าเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ ราคาขายปลีกลดแน่นอนอย่างต่ำก็ 50-60 สตางค์/ลิตร ที่เราต้องช่วยกลุ่มเบนซินเพราะตลอดเดือนที่ผ่านมาราคาปรับขึ้นเป็น 10 ครั้ง ลดเพียงครั้งเดียว ซึ่งกังวลว่าจะกระทบต่อประชาชนมากเกิน”

สำหรับการทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ มติที่ประชุมให้ปรับขึ้นราคาน้ำดีเซลขึ้น 1 บาท/ลิตร เป็นราคาลิตรละ 34 บาท เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน ราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) อยู่ที่ 158.29 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 149.49 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ผลจากการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่ตกลงจะห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเชีย การเปิดประเทศของจีน ตลอดจนปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐลดลงกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล

การปรับราคาดังกล่าวเป็นการทยอยปรับขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากนัก ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลปรับจากลิตรละ 32.94 บาท เป็นลิตรละ 33.94 บาท จะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป

นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สกนช.) กล่าวว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือด้านราคาน้ำมันดีเซล มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 เกี่ยวกับมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยรัฐจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง ซึ่ง กบน.ได้พิจารณาปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งแรกมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นมา

โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 32 บาท/ลิตร และจะทยอยปรับขึ้นลงตามสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่แล้ว (30 พ.ค.) ได้ปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 33 บาทต่อลิตร รวมทั้งภาครัฐยังมีมาตรการด้านภาษี โดยขยายการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลรอบที่ 2 ปรับลดอัตราภาษีลง 5 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. ถึง 20 ก.ค. 2565

ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ลดลง 5 บาท/ลิตร คิดเป็นฐานภาษีที่ลดจริงสำหรับดีเซล B5 อยู่ที่ 4.65 บาท/ลิตร และการลดภาษีนี้ไม่ได้ลดราคาหน้าสถานีน้ำมันทันที เพราะต้องนำมาช่วยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงพยุงราคาดีเซลให้อยู่ในราคาที่เหมาะสมได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ส่วนฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 5 มิ.ย. 2565 ติดลบอยู่ที่ 86,028 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 50,147 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 35,881 ล้านบาท ความคืบหน้าของการกู้เงิน ยังคงเดิน 2 ทางคือกู้สถาบันการเงิน 20,000 ล้านบาท ของบประมาณจากรัฐ 36,000 ล้านบาท เป็นส่วนของน้ำมัน 33,000 ล้านบาท LPG 3,000 ล้านบาท สถานะล่าสุดยังคงคุยเรื่องของกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งรอให้ผู้แทนกฤษฎีกาตีความ ขณะเดียวกันได้มีการส่งข้อมูลให้กับทางสถาบันการเงินที่เรียกขอมาเรียบร้อยแล้ว