ค่าการกลั่น ปลัดพาณิชย์ ชี้แจง อำนาจโดยตรงอยู่ที่ กระทรวงพลังงาน

บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร
บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร

บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงค่ากลั่นน้ำมัน มีกฎหมายเฉพาะ ซับซ้อน อำนาจโดยตรงอยู่ที่ กระทรวงพลังงาน ขณะที่ อำนาจกระทรวงพาณิชย์ ติดตาม ขายเกินราคา ไม่ปิดป้าย

วันที่ 21 มิถุนายน 2565 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีมีข้อเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เข้ามากำกับดูแลค่าการ กลั่นน้ำมันเพื่อช่วยให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลง ตนมองว่า อำนาจหน้าที่ในเรื่องของราคาน้ำมันซึ่งน้ำมันนั้นเป็นสินค้าเฉพาะมีข้อกฎหมายเฉพาะในการกำกับดูแล กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันฉบับที่หนึ่ง คือ พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ มาตรา 6 (2)

กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติไว้ว่า คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่วางหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการกำหนดราคาพลังงาน โดยให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการพัฒนาและบริหารพลังงานของประเทศ ถ้าดูกฎหมายนี้จะเห็นว่าคนเกี่ยวข้องกับราคาพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นการเฉพาะคือ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ซึ่งมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นเลขานุการ

ซึ่งการกำหนดราคาหรือการวางหลักเกณฑ์เรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิงต้องสอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาและบริหารพลังงานแห่งประเทศด้วย เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของกระทรวงพลังงาน

กฎหมายนี้กำหนดเอาไว้ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับราคาพลังงาน และกรณีที่กระทรวงพลังงานอาจจะมีแนวคิดการเก็บเงินเข้ากองทุนพลังงาน พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องคือ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกำหนดไว้ มาตรา 5 ให้มีการจัดตั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานการณ์วิกฤตน้ำมัน จะเห็นชัดว่าราคาพลังงานเป็นเรื่องที่ใครเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่บอกไว้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในภาวะวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิง

และมาตรา 27 พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกำหนดไว้ว่าใครเป็นผู้ต้องส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมาตรา 27 (1) โรงกลั่น 27 (2) ผู้นำเข้า ก็จะเห็นอยู่แล้วว่ากองทุนมีหน้าที่อะไรในเวลาสถานการณ์วิกฤต ใครควรเข้ามาบริหารจัดการและใครที่จะมีหน้าที่ส่งเงินเข้ากองทุน คือ ผู้ผลิตน้ำมันในประเทศซึ่งเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันด้วย ซึ่งเป็นโรงกลั่นการใช้เงินเข้ากองทุนให้เป็นไปตามคณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนด ประธานคือกระทรวงพลังงาน ที่กระทรวงพลังงานให้ข่าวคือการใช้อำนาจตามกฎหมายที่กระทรวงพลังงานรับผิดชอบกำกับดูแลอย่างถูกต้องทางกฎหมายที่สุด กรณีใดๆที่เป็นสินค้าเฉพาะโดยหลักการของกฎหมายต้องไปว่าที่กฎหมายเฉพาะนั้น ๆ ก่อน

นายบุณยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการว่า ถามว่าทำไมไม่ใช้ราคาตาม พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการ กรณีที่มีคนถามเช่นนี้นั้น โดยหลักการของกฎหมาย หากมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะสำหรับเรื่องใด นักกฎหมายย่อมเข้าใจดีว่าต้องเดินเริ่มจากตรงนั้นเพราะกฎหมายกำหนดไว้ให้เห็นชัดเจนแล้ว

ถ้าไปดูใน พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติท้ายกฎหมายจะเขียนไว้ ด้วยว่า การบริหารพลังงานของประเทศ กระจัดกระจายตามหน่วยงานต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้มีเอกภาพจึงได้จัดตั้ง คณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อให้การบริหารจัดการเรื่องพลังงานมีเอกภาพ ดังนั้นกฎหมายชัดเจนที่สุด วัตถุประสงค์ ข้อกำหนด ที่มาเรื่องการมีกฎหมายฉบับนี้ ณ เวลานี้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายจึงอยู่ตามกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าว เพื่อตอบคำถามหลายข้อโดยเฉพาะในสังคมโซเชียลมีเดีย ขอให้เข้าใจว่าไม่ได้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่แรก

LPG พาณิชย์ติดตาม ขายเกินราคาผิดกฎหมาย

ส่วนกรณี ที่มีคนกล่าวอ้างว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน กกร.โดยตำแหน่งและในกฎหมายกำหนด ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสินค้าควบคุม อยู่ในอำนาจของประธาน กกร.อยู่แล้ว ตรงนี้ไปสัมพันธ์กับ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการที่กระทรวงพาณิชย์ดูแลหรือไม่

ทุกวันนี้ LPG มีการประกาศราคาโดยกระทรวงพลังงาน กระทรวงพลังงานเป็นคนกำหนดราคา LPG ที่จะมีการปรับราคาขึ้นราคาเป็นขั้นบันไดว่า เดือนละเท่าไหร่ต่อครั้ง เราจะเห็นว่ากระทรวงพลังงานเป็นคนประกาศ ด้วยเหตุผลที่บอกแล้วและใช้เงินกองทุนในเรื่องนั้น วิธีการบริหารโดยใช้กฎหมายที่เขามีอยู่

แต่ถามว่ากระทรวงพาณิชย์ทำอะไรในเรื่องของ LPG หน้าที่กระทรวงพาณิชย์ก็คือเมื่อกระทรวงพลังงานประกาศราคาออกมาแล้ว ใครขายเกินกว่านี้กระทรวงพาณิชย์จับ โดยอาศัยมาตรา 29 คือ ผู้ใดจงใจจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร มีโทษผิดพระราชบัญญัติราคา เช่น กระทรวงพลังงานแจ้งราคาถังละ 380 บาท ถ้าใครขาย 400 บาท กระทรวงพาณิชย์จับ เป็นต้น อันนี้เป็นตัวอย่างที่จะเห็นว่า LPG ประกาศราคาโดยกระทรวงพลังงานมาตลอดดังนั้นคำถามคือ เพราะเหตุใดกระทรวงพลังงานประกาศราคา LPG ได้ แต่พอมาราคาน้ำมันเหตุใดบางคนจึงมาบอกว่าให้กระทรวงพาณิชย์เป็นคนกำกับดูแล

“ ผมคิดว่าหน่วยงานราชการทุกหน่วยมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ กฎหมายใครก็กฎหมายคนนั้น กฎหมายกำหนดความรับผิดชอบอยู่ที่ใดผู้นั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ควรที่ผู้ใดจะมาบิดเบือนหลักการนี้”

ราคาพลังงานมีกฎหมายเฉพาะ

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อเสนอให้กระทรวงพาณิชย์ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 เข้ามากำกับดูแลค่าการกลั่นน้ำมันเพื่อช่วยให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงนั้น

ร.ต.จักรา ยอดมณี
ร.ต.จักรา ยอดมณี

ทั้งนี้ ธุรกิจพลังงานถือเป็นธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะที่มีความซับซ้อนตลอดห่วงโซ่อุปทาน การกำกับดูแลจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญและมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกิจด้านพลังงาน รวมทั้งโครงสร้างต้นทุนและราคาพลังงาน ที่สำคัญการตัดสินใจในการกำหนดมาตรการใด ๆ จำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน และพิจารณาถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน

ซึ่งกระทรวงพลังงานเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแล บริหารจัดการ และมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ที่ให้อำนาจคณะกรรมการในการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการกำหนดราคาพลังงาน ให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ อีกทั้งยังมีกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศด้วย ทั้งนี้เป็นหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงพลังงาน ไม่ใช่กระทรวงพาณิชย์ แต่แม้กระทรวงพาณิชย์จะไม่ใช่หน่วยงานหลักแต่ก็พร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินการภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่

ปกติการใช้อำนาจ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ของกระทรวงพาณิชย์จะใช้ในการกำกับดูแลสินค้าทั่วไปที่ไม่มีกฎหมายหรือกลไกเฉพาะ เช่น กรณีสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับประชาชน อย่างไรก็ตาม เพื่อเสริมสร้างความเป็นธรรมทางการค้า ได้มีการกำหนดมาตรการให้สถานีบริการน้ำมันปิดป้ายแสดงราคา และมีการตรวจสอบความถูกต้องเที่ยงตรงของหัวจ่ายน้ำมันมาอย่างต่อเนื่อง

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทยว่าวันนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงจะมีการเสนอวาระพิจารณาเรื่องการต่อมาตรการช่วยเหลือราคาค่าพลังงานเท่านั้น

ส่วนกรณีที่กองทุนน้ำมันฯติดลบถึง 96,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ทางกระทรวงพลังงานได้เตรียมมาตรการและหาข้อสรุปแล้ว แต่รอให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้เปิดเผยเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง

ส่วนเรื่องการขอความร่วมมือดึงกำไรเบื้องต้นจากค่าการกลั่น ที่จะมีการขอความร่วมมือให้โรงกลั่นน้ำมันทั้งหมดลงขันช่วยเหลือรัฐบาลนั้น จากที่ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงกลั่นวานนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องมีการพิจารณารายละเอียดของกฎหมาย ตามที่ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งข้อสังเกต

“ทางโรงกลั่นก็ต้องการให้ความร่วมมือแต่มันไปติดที่ข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย เพราะบริษัทโรงกลั่นส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งก็มีกฎหมายในส่วนของ ก.ล.ต.กำกับดูแล มันจะติดขัดอย่างไรเขาก็ขอให้เราดูให้ที ส่วนแนวทางการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันฯมาตรา 14 (4), 21 (1) นั้นไม่ได้ถอย แต่การดำเนินการนั้นทุกฝ่ายต้องเห็นด้วย แต่มันจะติดเรื่องผู้ถือหุ้นเราก็พยายามที่จะหาวิธีที่ทำได้เร็วกว่านี้ กำลังจัดทำกันอยู่ทั้งเรื่องกฎหมายและเรื่องวงเงินคงได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้”