ชัชชาติ-ส.อ.ท. ปั้นชุมชนคลองเตยต้นแบบ BCG-คลองหัวลำโพงเวนิสตะวันออก

ส.อ.ท ตั้งคณะ กรอ.กทม. เตรียมประชุมนัดแรก ก.ค.นี้ จับมือ “ชัชชาติ” ชูโมเดล BCG เพิ่มพื้นที่สีเขียว โครงการ SAI (การส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ) ยกชุมชนคลองเตยต้นแบบ พร้อมดึงสถาบันน้ำฯอัดงบพัฒนาคลองหัวลำโพงเป็นเวนิสตะวันออก

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) กล่าวภายหลังการร่วมประชุมกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ว่าในการหารือดังกล่าวผ่านคณะทำงานกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนของกรุงเทพมหานคร (กรอ.กทม.) ได้มีการพูดคุยเรื่องของแนวทางการขับเคลื่อนกรุงเทพมหานคร โดยจะนำเรื่องของเศรษฐกิจ BCG เป็นตัวนำร่อง

เช่น การเพิ่มพื้นที่สีเขียวจะนำสมาชิกทั้งหมดมามีส่วนนร่วมและช่วยกันลดคาร์บอน การผลักดันโครงการ SAI หรือการส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ โดยจะเลือกพื้นที่นำร่องคือชุมชนคลองเตย และพื้นที่เอกชนโดยใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นแรงจูงใจ ซึ่งหากเอกชนยินยอมให้นำพื้นที่มาพัฒนาตามโครงการ SAI จะสามารถลดอัตราการเสียภาษีให้น้อยลงได้

และในภาคประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานในกรุงเทพมหานครสามารถใช้ผลผลิตที่ได้จากในพื้นที่มาบริโภค และสามารถสร้างรายให้กับชุมชน

และมีแผนที่พัฒนาแม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองที่เชื่อมต่อ ให้เป็นแซนด์บ็อกซ์ของ กทม. โดยเลือกคลองหัวลำโพง ระยะทาง 1 กม. ที่ปัจจุบันมีปัญหาความไม่สะอาดและมีกลิ่นเน่าเหม็นอย่างรุนแรง ซึ่งจะใช้เป็นต้นแบบในการแก้ปัญหาร่วมกัน โดยจะดึงสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ส.อ.ท. เพื่อมีเป้าหมายให้เป็นเวนิสตะวันออก จากทั้งหมด 1,126 คลองทั่วทั้งกรุงเทพฯ

พร้อมทั้งให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งในเขตกรุงเทพมหานครที่มีทั้งหมดกว่า 5,000 โรง ต้องมีความโปร่งใส มีมาตรฐานและดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ให้กระทบต่อชุมชนโดยรอบ รวมไปถึงการลดขั้นตอนการออกใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับ กทม. ให้เป็นแบบ One Stop Service


นอกจากนี้ กทม. ยกให้ภาคเอกชนมีบทบาทดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่กรุงเทพมหานครหลังการฟื้นตัวของโควิด เช่น อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นตัวสร้างรายได้ ซึ่งการหารือทั้งหมดภายใต้โครงการที่ทำงานร่วมกันจะเห็นผลภายใน 1-2 เดือน