ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม ตลาดกังวลอุปทานตึงตัวเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบีย

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัวจากเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบียและการประท้วงของนอร์เวย์

วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2% หลังตลาดกังวลอุปทานมีแนวโน้มตึงตัวจากเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบียและการประท้วงของสหภาพแรงงานของนอร์เวย์ โดยล่าสุดบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียประกาศประกาศภาวะสุดวิสัย (force majeure) ในการส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือ Es Sider และ Ras Lanuf ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกมีแนวโน้มปรับลดลงมาอยู่ที่ราว 0.36-0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับปกติที่ราว 0.8-0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ขณะที่สหภาพแรงงานที่แท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งของนอร์เวย์ จะนัดหยุดงานและประท้วงตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ซึ่งหากไม่สามารถตกลงกันได้อาจจะส่งผลให้การผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของนอร์เวย์หายไปประมาณ 8%

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 1 ก.ค. อยู่ที่ 108.43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.67 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 111.63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.60 เหรียญสหรัฐ

รัฐบาลเอกวาดอร์ประกาศสามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มผู้ประท้วงและคาดจะสามารถกลับมาเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบให้กลับมาที่ระดับใกล้เคียงกับก่อนเกิดเหตุการณ์ประท้วงที่ราว 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายใน 7 วัน

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง โดย Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 1 แท่นมาอยู่ที่ราว 595 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2563

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินในภูมิภาคและสหรัฐฯ ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องและปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของเอเชียที่เพิ่มขึ้น