ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัว

ราคาน้ำมันดิบร่วง
REUTERS/Fabian Bimmer

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดกังวลอุปทานตึงตัว ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจถอดถอย

วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มกว่า 2% หลังตลาดยังกังวลอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวจากรัสเซียที่ปริมาณการผลิตมีแนวโน้มปรับลดลงและกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่เพิ่มกำลังการผลิตได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือน มิ.ย. ที่อยู่ที่ราว 372,000 คน ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 268,000 คน และนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่สูงกว่าระดับ 350,000 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตต่อเนื่อง

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 8 ก.ค. อยู่ที่ 104.79 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.06 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 107.02 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +2.37 เหรียญสหรัฐ

ความกังวลเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอย จากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างเร็วและธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกที่เริ่มมีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด ส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมันและสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังผู้ผลิตปรับเพิ่มการขุดเจาะขึ้นกว่า 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Baker Hughes รายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่นมาอยู่ที่ราว 752 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2563

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลประกาศโควต้าการส่งออกเพิ่มเติม นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 63

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกของเอเชียเหนือที่ปรับเพิ่มขึ้น