เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ หรือ NRF มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังเติบโต 50% ยันเงินบาทอ่อนค่าไม่กระทบธุรกิจ ชี้เป็นผลบวก เผยดีลลงทุนใน Tofurky ดัน Plant-Based Food ขึ้น Top 4 ในอเมริกา พร้อมรุกตลาดกัญชง-กัญชาทางการแพทย์เต็มสูบหลังประกาศปลดล็อก
วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าเสริมแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อผลักดันให้ผลการดำเนินงานปี 2565 ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งมั่นใจจะมีรายได้เติบโต 50% โดยในไตรมาส 1/2565 บริษัททำรายได้แล้วกว่า 612 ล้านบาทนับเป็นการสร้างผลงานที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์แม้มีผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ
โดยบริษัทเร่งสร้างโอกาสการเติบโตในกลุ่มธุรกิจของ NRF ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจโปรตีนจากพืช Plant-Based Food ปิดดีลการลงทุนใน Turtle Island Food หรือ TIF ภายใต้แบรนด์ Tofurky พร้อมดัน NRF เป็นผู้ผลิต Plant-Based Food อันดับ 4 ในสหรัฐ ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้นับเป็นการโอกาสในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอาหารโปรตีนจากพืชของบริษัท เนื่องจากแบรนด์ Tofurky มีการจำหน่ายอยู่ทั่วสหรัฐอเมริกากว่า 27,000 แห่ง โดยคาดว่าดีลนี้จะแล้วเสร็จใน 2 เดือนหลังจากนี้
ด้านความคืบหน้าการลงทุนร่วมกับ Innobic ปัจจุบันได้เปิดร้าน alt.Eatery คอมมิวนิตี้แพลนต์เบสสาขาแรกบนเส้นสุขุมวิท เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเกินคาด พร้อมมีแผนขยายสาขาในอนาคต
2.กลุ่มธุรกิจอาหารท้องถิ่น Ethnic Food ปัจจุบันได้อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าในครึ่งปีหลัง ส่งผลให้ได้รับ Margin เพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์การขนส่งที่คลี่คลาย ค่าตู้คอนเทนเนอร์ตกลง 70% ทำให้ลูกค้าเริ่มสั่งสินค้ามากขึ้น
3.กลุ่ม Functional Product เตรียมรุกแผนดำเนินงานต่อภายใต้การดำเนินงานผ่าน GTH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ NRF โดยเข้าถือหุ้น 75% ซึ่งภายหลังประกาศปลดล็อกกัญชา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เตรียมแผนดัน S-Curve ใหม่ คาดว่า GTH จะเป็น upside surprise ในครึ่งปีหลัง เพื่อรองรับความต้องการที่ล้นมือของกลุ่มลูกค้าของสินค้ากัญชง-กัญชาภายใต้ GTH ในขณะนี้ เพื่อต่อยอดและพัฒนาทางการแพทย์ภายใต้กฎหมาย ชูความเป็นผู้นำทางการตลาดในอุตสาหกรรมกัญชง-กัญชาในประเทศไทย
4.กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นการลงทุนในบริษัท Botany Petcare จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง โดยเข้าถือหุ้น 66.7% คิดเป็นมูลค่า 36 ล้านบาท ผ่านทางบริษัท ซิตี้ฟูด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NRF ได้เริ่มดำเนินการผลิตอาหารทานเล่นสัตว์เลี้ยงเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าในครึ่งปีหลังรับรู้รายได้ โดย NRF จะมีสัดส่วนรายได้ 10%
นายแดนกล่าวอีกว่า นอกจากนี้แผนดำเนินธุรกิจของ NRF จะส่งผลให้รายได้ในปีนี้เติบโตเกินคาด และยังมีแผนเปิดดีลใหม่ในการซื้อเทคโนโลยีที่จะช่วยเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจกในโลก และสร้างโรงงานกักเก็บคาร์บอนในประเทศไทยและอเมริกา หลังจากที่ได้ศึกษาถึงความเป็นไปได้
โดยยังคงมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์อันแรงกล้า ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อน พร้อมนำบริษัทไปสู่การเป็น Global Clean Food Tech Company การขับเคลื่อนบริษัทด้วยเทคโนโลยีอาหารพลังงานสะอาด มุ่งสู่การเป็นอุตสาหกรรมอาหารที่ยั่งยืน รวมทั้งการพัฒนา Decarbonization เพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050