ก.เกษตรฯ ปรับจัดสรรนมโรงเรียน ลดปัญหาบูดง่าย

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการจัดทำระบบบริหารจัดการนมโรงเรียนที่ปรับใหม่ ว่า จะช่วยกระจายอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัดที่มีเกษตรกรประกอบอาชีพโคนมจำนวนมาก ได้แก่ สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี และเชียงใหม่ ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลและบริหารจัดการนมโรงเรียนในพื้นที่ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องคุณภาพของน้ำนม และการจัดส่งให้ตรงต่อเวลาได้ ส่วนการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้ประกอบการและเกษตรกรที่จะเข้าโครงการฯ ต้องมีเอกสารแสดงปริมาณ แหล่งที่มา และคุณภาพของน้ำนมดิบที่ตนเองมี รวมทั้งมีระบบประกันภัยที่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ ในส่วนกระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการออกเบี้ยปรับ และตัดสิทธิผู้ประกอบการหากพบปัญหานมด้อยคุณภาพ

น.สพ.ณรงค์ เลี้ยงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การแบ่งพื้นที่การจัดสรรสิทธิจำหน่ายโครงการอาหารเสริม (นม)โรงเรียน ในขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือก ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมกว่า 75 ราย แบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม 2.เอกชน 3.องค์การ ส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) และ4.สถาบันการศึกษา คาดว่าจะสามารถคัดเลือกแล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม และจะทำการจัดสรรพื้นที่ภายหลังการพูดคุยหาข้อสรุปต่อไป

“ขณะนี้อยู่ระหว่างแจ้งรายละเอียดและเงื่อนไขโครงการฯ ส่วนปริมาณความต้องการน้ำนมในปัจจุบันอยู่ที่วันละ 1,078 ตันต่อวัน เป็นไปตามฐานข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ และมีการบูรณาการไปยังหน่วยงานอื่น อาทิ ระบบการตรวจสอบคุณภาพน้ำนมโดยองค์การอาหารและยา(อย.) การกำกับดูแลการกระจายนมโรงเรียนไปอย่างทั่วถึงโดยกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ยืนยันว่าสามารถส่งนมโรงเรียนทันเปิดเทอมนี้แน่นอน” น.สพ.ณรงค์ กล่าว

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์