“กสศ.” จับมือ “ตชด.” ลดเหลื่อมล้ำเด็กห่างไกล

เพื่อเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั้ง 2,185 แห่งทั่วประเทศ ทางกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.) จึงร่วมกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนแบบมีเงื่อนไข และพัฒนาคุณภาพครู” ด้วยการเชิญชวนภาคเอกชนมาร่วมบริจาคสมทบเพิ่มเติม

“พล.ต.ท.วิชิต ปักษา” รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เปิดเผยว่า โรงเรียนในสังกัด บช.ตชด. ประสบภาวะความยากลำบาก และข้อจำกัดหลายด้านซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของครู การจัดการเรียนการสอน และคุณภาพของเด็กนักเรียน ถือเป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทย

“ปัจจุบันมีสถานศึกษาในสังกัด บช.ตชด. รวม 218 แห่ง แบ่งเป็น โรงเรียนตชด. 168 แห่ง และศูนย์การเรียน ตชด. 50 ศูนย์ โดยกว่าร้อยละ 20 เป็นโรงเรียนที่เดินทางยากลำบาก สิ่งเหล่านี้จึงเป็นอุปสรรคต่อการจัดการเรียนการสอน”

“อุปสรรคสำคัญอีกประการคือการไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนเพื่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาที่เพียงพอ เนื่องจาก บช.ตชด.ไม่ใช่หน่วยงานหลักในการจัดการศึกษา ทำให้โรงเรียนในสังกัดมีข้อจำกัดในเรื่องการบริหาร และจัดการศึกษามาโดยตลอด นอกจากนี้ยังพบว่า ครู ร.ร.ตชด.ส่วนใหญ่ไม่มีวุฒิทางการศึกษา หรือไม่ตรงตามสาขาวิชา”

“พล.ต.ท.วิชิต” กล่าวเพิ่มเติมว่า ผ่านมาเรามีความพยายามพัฒนาครู ร.ร.ตชด.ให้ได้รับวุฒิทางการศึกษา เช่น การให้ทุนสนับสนุน การปรับเวลาเรียนให้สอดคล้องกับสภาพการทำงาน การศึกษาทางไกล แต่ด้วยข้อจำกัด เช่น ภาระงานที่หนักหลายด้าน จึงทำให้ครูส่วนหนึ่งต้องตัดสินใจหยุดการศึกษากลางคัน ภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เนื่องจากที่ตั้งของบางโรงเรียนซึ่งอยู่ในพื้นที่สูง ห่างไกลคมนาคมทำให้ไม่สามารถศึกษาต่อได้ การจัดหลักสูตรเป็นมาตรฐานเดียว ทำให้รายวิชาตามหลักสูตรไม่สอดคล้องกับสภาพจริงในการปฏิบัติงานของครู ร.ร.ตชด.

“น.พ.สุภกร บัวสาย” ผู้จัดการ กสศ.กล่าวว่า ตลอดเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ครูสังกัด ตชด.กว่า 2,000 คน จาก 218 โรงเรียน ได้ลงพื้นที่ค้นหา คัดกรองนักเรียนที่มีความยากลำบาก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตามแนบตะเข็บชายแดนทั้งหมด โดยกรอกข้อมูลลงในระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (iSEE) ทำให้ขณะนี้ กสศ.มีฐานข้อมูลที่สามารถชี้เป้านักเรียนที่มีความยากจนด้อยโอกาส ภาระพึ่งพิง สภาพที่อยู่อาศัย จำนวน 15,787 คน คัดกรองเรียบร้อยแล้วจำนวน 13,037 คนคิดเป็นร้อยละ 82

“โดยนักเรียนกลุ่มนี้มาจากครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย 1,200 บาท/คน/เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประมวลผลการคัดกรอง ซึ่งจะมีการแจ้งรายชื่อนักเรียนทั้งหมดที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรอง และ กสศ.จะจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาคในโรงเรียนสังกัด บช.ตชด.ต่อไป ที่ผ่านมานักเรียนกลุ่มนี้ไม่เคยได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนมาก่อน ทำให้ในปีการศึกษา 2562 กสศ.จะจัดสรรเงินอุดหนุน โดยแบ่งเป็น นักเรียนระดับชั้นอนุบาล-ประถมศึกษา จัดสรรในภาคเรียนนี้ 1,500 บาท/คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา จัดสรรภาคเรียนละ 2,500 บาท/คน”

“โดยทั้งหมดนี้จะอุดหนุนไปที่นักเรียนโดยตรง 50% เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ค่าเดินทาง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าให้ได้ และอีก 50% จัดสรรให้กับทางโรงเรียนเป็นค่าอาหาร”

“ไม่เพียงเท่านี้ กสศ.ยังสนับสนุนทางด้านวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญและงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับการพัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพครูในโรงเรียนสังกัด บช.ตชด.”

จึงนับเป็นความร่วมมือที่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง