อว. เปิดตัวครอสออนไลน์ พัฒนาทักษะคนไทยพร้อมทำงานสู้วิกฤต COVID-19

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินหน้ายกระดับผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบ COVID-19 ให้มีความพร้อมในทุกมิติ มุ่งเน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยล่าสุดได้ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษา 19 แห่ง เปิดตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ “Future Skill x New Career Thailand” อย่างเป็นทางการ

นำร่อง 30 หลักสูตร ซี่งส่วนมากเป็นรูปแบบเรียนฟรีที่รัฐให้การสนับสนุน มีเพียงบางหลักสูตรที่อเก็บค่าใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 1,000 บาท เพื่อให้ผู้ว่างงาน แรงงานคืนถิ่น ผู้ประกอบอาชีพอิสระ บัณฑิตที่กำลังจบการศึกษาได้สร้างงานด้วยตนเอง รวมทั้งเพิ่มทักษะชั้นสูงและการทำงานสมัยใหม่ให้กับกำลังคนในภาค SMEs และภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้มีศักยภาพพร้อมทำงานหลังวิกฤต COVID-19 ขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินต่อ ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและรับมือโลกในศตวรรษที่ 21

“ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า สถานประกอบการหลายแห่งต้องหยุดประกอบการ แรงงานได้รับผลกระทบทางตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) โดยบางคนถูกเลิกจ้าง

“อว. เล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาทั้งรัฐ และเอกชนในสังกัดของกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ดำเนินโครงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ (reskill/ upskill/ newskill) เพื่อให้มีงานทำ เตรียมพร้อมหลังวิกฤต COVID-19  ประกอบด้วย กลุ่มทักษะสำหรับอุตสาหกรรมเกษตรอัจฉริยะ (smart farming) ทักษะการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ (care giver) ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอัจฉริยะ (smart tourism) ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัล ด้านการจัดการข้อมูลดิจิทัล (data science) ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร (food for the future) ทักษะสำหรับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม (robotic and AI) ทักษะเพื่อการพัฒนาสู่การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรม (smart Innovative Entrepreneur) ทักษะการผลิตเนื้อหาสร้างสรรค์ (Creative Content) และอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ”

“รศ.สรนิต ศิลธรรม” ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า สำนักงานปลัดฯ (สป.อว.) ได้สนับสนุนงบประมาณรวมทั้งสิ้น 14,000,000 บาท ให้สถาบันอุดมศึกษาพัฒนาหลักสูตรเสริมทักษะที่เป็นหลักสูตรฝึกอบรม (non degree) เพื่อให้ทรัพยากรบุคคลของประเทศไทยสามารถต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากวิกฤต COVID-19 ได้อย่างแท้จริง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ดร.อรสา ภาววิมล” รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า โครงการนี้มีสถาบันอุดมศึกษานำร่องที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการบริหารโครงการของ อว. จำนวน 19 แห่ง ในหลักสูตรประกาศนียบัตร แบ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ 17 แห่ง ได้แก่ ม.เกษตรศาสตร์ ม.มหิดล ม.ธรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ม.ขอนแก่น ม.เทคโนโลยีสุรนารี ม.เชียงใหม่ ม.แม่โจ้ ม.สงขลานครินทร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตนครราชสีมา ม.ราชภัฏราชนครินทร์ ม.สวนดุสิต และมีมหาวิทยาลัยเอกชนนำร่อง 2 แห่ง ได้แก่ ม.ศรีปทุม และ ม.หอการค้าไทย

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ได้พิจารณาคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ประกอบด้วย

1) หลักสูตรที่เสนอต้องตรงกับความเชี่ยวของสถาบันอุดมศึกษา

2) สามารถระบุความต้องการและกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและผูกโยงกับการได้งานทำ และการทำงานที่มีคุณภาพ

3) หลักสูตรสามารถระบุทักษะที่มีมาตรฐานพร้อมวิธีวัดและประเมินผล

4) แต่ละหลักสูตรต้องมีผู้เข้ารับการอบรม ไม่น้อยกว่า 30 คน

5) วิทยากร มีคุณวุฒิและประสบการณ์เพียงพอในการถ่ายทอดความรู้

6) มีอุปกรณ์ เครื่องมือพื้นฐานเพียงพอต่อการจัดอบรวม

7) มีการประเมินผลเพื่อตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานทั้งก่อนและหลังการอบรม


นอกจากนี้ จะจัดให้มีกระบวนการ post audit เพื่อการรับรองหลักสูตร ซึ่งหลักสูตรที่ผ่านการรับรองจะได้รับการส่งเสริมให้สามารถสะสมหน่วยกิตเพื่อรับปริญญา (degree) ได้ต่อไปเพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทย