
คุณหญิงกัลยา หารือสภาดิจิทัลฯ เตรียมเคลื่อนโครงการแบ่งปัน Smart Device หลังนายกฯไฟเขียวให้กระทรวงศึกษาฯ ดำเนินการร่วมกระทรวงดีอี เร่งลดเหลื่อมล้ำ พบสังกัด สพฐ. ขาดแคลน มากกว่า 1.4 ล้านคน เตรียมจัดตั้งกองทุนเพื่อความยั่งยืน
วันที่ 8 ธันวาคม 2564 ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้ที่เกี่ยวข้องประชุมหารือร่วมกับสภาดิจิทัลฯ เตรียมเคลื่อนโครงการจัดหา Smart Device พร้อมเดินหน้าขยายความร่วมมือทุกภาคส่วน เตรียมดึงสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม กสทช. เข้าร่วมเร่งลดความเหลื่อมล้ำ และเตรียมจัดตั้งกองทุนเพื่อความยั่งยืน
- ประกาศใหม่ ผลประโยชน์ตอบแทนบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตน ม.33,39
- ชัชชาติ พับ “ทางเลียบเจ้าพระยา” ดับโครงการในฝันประยุทธ์
- TRUE เกิดอะไรขึ้น ? ราคาดิ่ง-CHINA MOBILE ตัดขายทิ้ง 906 ล้านหุ้น
ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวโครงการ Next Normal with Smart Devices ภายใต้แคมเปญนำร่อง “พี่ใหญ่ให้ยืม” ซึ่งถือเป็นการประกาศเจตนารมณ์ในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำและบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนจากการขาดแคลนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้กับนักเรียนสำหรับใช้ในการเรียนออนไลน์ไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมานั้น
ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคม ที่พร้อมจะให้การสนับสนุน โดยล่าสุดได้มีการหารือกับทางสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ซึ่งยินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
ซึ่งทางโครงการฯ ก็จะขยายความร่วมมือไปในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง อาทิ สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นต้น
“ถ้าเราทำได้เร็ว เด็กก็มีโอกาสเร็วขึ้น อยากให้เริ่มต้นจากเครือข่ายที่เรามี ต้องขอขอบคุณสภาดิจิทัลฯ ที่ยินดีสนับสนุนโครงการนี้ ซึ่งเชื่อว่าทุกหน่วยงานพร้อมให้การสนับสนุนโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีการขยายความร่วมมือไปยังหน่วยงาน หรือองค์กรอื่น ๆ ต่อไป เช่น สภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม กสทช. รวมถึงระชาชนทั่วไป เป็นต้น
รวมไปถึงขณะนี้ก็ให้ทางโรงเรียนแจ้งไปยังสมาคมศิษย์เก่า สมาคมผู้ปกครองให้รับทราบถึงโครงการฯ เพื่อที่จะมาช่วยกันให้ได้มากที่สุด เป้าหมายคือเด็กทุกคนที่ขาดแคลนต้องมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใช้ในการเรียน”
อย่างไรก็ตาม ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า การจะทำให้โครงการฯ เกิดความยั่งยืนได้นั้นจะต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งอนาคตก็อาจจะมีการจัดสรรเป็นงบประมาณช่วยเหลือและสนับสนุนในเรื่องอุปกรณ์การเรียนให้กับนักเรียนที่ขาดแคลน และในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งอาจจะอยู่ในกองทุนพัฒนา Coding ที่คณะกรรมการ Coding แห่งชาติจะจัดตั้งขึ้นในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ สำหรับโครงการดังกล่าว จะดำเนินการให้การช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนในเรื่องอุปกรณ์การเรียน สามารถเรียน Learn From Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกคน ถือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้กับเด็กไทย ซึ่งจากตัวเลขนักเรียนในสังกัด สพฐ. ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน พบว่ามีจำนวนประมาณ 1,454,388 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมดประมาณ 5,500,000 คน
โดยแบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ขาดแคลนอุปกรณ์ จำนวนประมาณ 14,587 คน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวนประมาณ 39,801 คน และระดับประถมศึกษาจำนวนประมาณ 1,400,000 คน โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญและสั่งการมายังกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ และให้กระทรวงดิจิทัลฯ เป็นผู้สนับสนุนโครงการร่วมด้วย