ม.หอการค้า ดันหลักสูตรธุรกิจดิจิทัล-การเงิน ติวเข้มนักศึกษาเทรดหุ้น

ม.หอการค้า ติวเข้มนักศึกษาเทรดหุ้น

คณะบริหารธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ดันหลักสูตรใหม่สาขาวิชาธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรม สร้างบัณฑิตเก่งเทคโนโลยีสู่ตลาดแรงงาน พร้อมเสริมแกร่งสาขาวิชาการเงิน เปิดห้องปฏิบัติการเทรดหุ้น ติวเข้มนักศึกษาลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 อาจารย์บุษรา เอื้อจิระพงษ์พันธ์ หัวหน้ากลุ่มวิชาธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรม คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า คณะบริหารธุรกิจได้ปรับหลักสูตรจากสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สู่รูปแบบเนื้อหายุคใหม่ในชื่อ “สาขาวิชาธุรกิจดิจิทัล และนวัตกรรม” เพื่อสร้างบัณฑิตนักพัฒนาที่เก่งด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม ให้พร้อมเข้าเติมเต็มความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ตลอดจนการเป็นผู้ประกอบการสตาร์ตอัพ

จากเดิมสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้การวิเคราะห์ทางธุรกิจ โดยการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาเป็นเครื่องมือในการช่วยตัดสินใจ สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือโฮมเพจ หรือระบบฐานข้อมูลของธุรกิจ สามารถเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านเทคนิค และที่ปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจได้ด้วย

และในปีการศึกษา 2565 เป็นต้นไป จะเริ่มการเรียนการสอนหลักสูตรใหม่ ในชื่อสาขาวิชาธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรม เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของทั่วโลกกำลังเผชิญกับยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น ไร้การหยุดนิ่ง เทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างปรับตัวโดยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจ นับเป็นกลยุทธ์ด้านการขยายขีดความสามารถทางการแข่งขัน

สร้างบัณฑิตเข้าใจธุรกิจ

อาจารย์บุษรากล่าวต่อว่า ปัจจุบันจะเห็นว่าในภาคธุรกิจมีเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่แทรกซึมอยู่ในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมภายในองค์กรเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการทำงาน หรืออำนวยความสะดวกต่อการใช้งานของผู้บริหารทั้งการสั่งซื้อ ชำระเงิน ติดตามการจัดส่ง ฯลฯ ทำให้ผู้บริหารยุคนี้จำเป็นต้องมี digital skill เพื่อความสามารถในการตัดสินใจเชิงนโยบายที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ทั้งการสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสารระหว่างบุคลากร สินค้า บริการใหม่ ๆ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจในทุกสถานการณ์

ทั้งนี้ เป้าประสงค์ของสาขาวิชาคือการสร้างบัณฑิตที่มีทักษะและความเข้าใจในธุรกิจ ไอที และความสามารถในการตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของตลาด ทั้งความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนความเข้าใจต่อศักยภาพของคู่แข่งทางธุรกิจ

ตลาดแรงงานขาดคนเก่งดิจิทัล

ด้าน ดร.เดวิด มกรพงศ์ อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรม คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า ด้วยบริบทของภาคอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง สาขาวิชาธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรมมุ่งเน้นการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงาน มีทักษะที่ดีเยี่ยมทั้งในเชิงวิชาการและปฏิบัติการ เนื้อหาในรายวิชาเป็นการสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจต่อโครงสร้างของ digital transformation เป็นสำคัญ

และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งทำงานเคียงคู่มากับหอการค้าไทย จึงมีจุดแข็งด้านเครือข่ายความสัมพันธ์กับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เหนียวแน่น ทำให้เรามีโอกาสได้สื่อสารแลกเปลี่ยนอยู่เสมอ จนทำให้ทราบถึงความต้องการของตลาดแรงงานว่า pain point ของตลาดแรงงานในวันนี้ยังขาด ซึ่งบุคลากรที่มีศักยภาพในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม เมื่อเทียบอัตราส่วนระหว่างจำนวนบุคลากรและองค์กรธุรกิจ

ทั้งนี้ สำหรับบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากสาขาวิชาธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรม จากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะมีคุณลักษณะเด่นหลายประการ อาทิ ความสามารถในการเป็นโปรแกรมเมอร์ การคิดค้น digital device การเป็นนักประดิษฐ์ Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR) เพื่อพร้อมรับมือการมาของเทคโนโลยี Metaverse รวมถึงความสามารถด้านเทคโนโลยี Blockchain

ตลอดจนเป็น Innovator ผู้สร้างนวัตกรรมทางเลือกเพื่อลดต้นทุน เพิ่มความสะดวกในการทำงานขององค์กร หรือนำเสนอสินค้าและบริการใหม่แก่ผู้บริโภค การริเริ่มทำธุรกิจสตาร์ตอัพเป็นของตนเอง และทักษะด้านอื่น ๆ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อเติมเต็มภาคอุตสาหกรรมให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ผู้เรียนทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัสกับประสบการณ์การเรียนที่ควบคู่ไปกับการทำงานจริง โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการของภาคธุรกิจซึ่งล้วนเป็นภาคีเครือข่ายของหอการค้าไทย กล่าวคือสามารถนับหนึ่งประสบการณ์การทำงานได้ตั้งแต่ยังเรียน และจะเป็นบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีคุณค่าต่อตลาดแรงงานและภาคธุรกิจในอนาคต

การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมาแรง

ดร.เดวิดกล่าวอีกว่านอกจากการพัฒนาหลักสูตรดังกล่าวแล้ว อีกหนึ่งกระแสที่น่าจับต่อมองคือเรื่องของการเงินการลงทุนในยุคนี้ ทั้งในเรื่องของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งตลาดแรงงานด้านธุรกิจการเงินและการลงทุนในปัจจุบัน ต่างต้องการคนทำงานที่มีทักษะ และความเข้าใจในการวิเคราะห์ มีความสามารถในการให้คำแนะนำในฐานะที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการการเงินและการลงทุนอย่างแท้จริง สาขาวิชาการเงินและการลงทุน ก็ได้ปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรให้มีความทันสมัย เพิ่มกิจกรรมการเรียนรู้ในภาคปฏิบัติ ตามแบบฉบับ Practice University เพื่อสร้างบัณฑิตที่พร้อมทำงาน

@ใช้ห้องปฏิบัติการเทรดหุ้น

ดร.นงนภัส แก้วพลอย หัวหน้ากลุ่มวิชาการเงินการลงทุน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สาขาวิชาการเงินและการลงทุน เรามุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้หลักการบริหารการเงิน การจัดการสภาพคล่อง หลักการลงทุน ตลอดจนนโยบายด้านการเงิน เพื่อพัฒนาสู่การเป็นนักบริหารการเงินมืออาชีพ การสร้างกิจกรรมให้ผู้เรียนได้สัมผัสประสบการณ์จริงจากการทำงานในภาคธุรกิจด้านการเงินและการลงทุนด้วย

โดยในปีการศึกษานี้ การใช้ “ห้องปฎิบัติการเทรดหุ้น” โดยมีเป้าหมายเพื่อผู้เรียนที่มีความสนใจด้านนี้โดยตรง สามารถเรียนรู้ซักซ้อมการลงทุนในหลักทรัพย์ได้ โดยมีอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำชี้แนะ รวมถึงห้องปฏิบัติการซึ่งเป็นคลังความรู้ด้านการเงินและหลักทรัพย์

สิ่งเหล่านี้คือกิจกรรมภาคปฏิบัติที่ต้องการให้ผู้เรียนได้อยู่ในบรรยากาศเสมือนโลกการทำงานในอนาคต ซึ่งในระหว่างการทดลองในห้องปฏิบัติการจะเป็นไปในลักษณะ “เพื่อนช่วยเพื่อน” หรือ “พี่ช่วยน้อง” อีกทั้งยังมีความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในภาคธุรกิจหลักทรัพย์ด้านการเงินมาร่วมกันพัฒนาหลักสูตรและเป็นวิทยากรบรรยายในโอกาสสำคัญต่าง ๆ

อาทิ บริษัท หลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด รวมทั้งการบรรยายด้านการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก คริปโตเคอร์เรนซี สาขาวิชา จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับกระแสความนิยมด้านการเงินและการลงทุนในปัจจุบัน เหล่านี้ล้วนเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้เรียนได้ความรู้นอกเหนือจากตำรา นั่นคือการเรียนจากเจ้าของประสบการณ์จริง

ดันนักศึกษารับ License

ด้าน ผศ.ดร.ลลิตา หงษ์รัตนวงศ์ อาจารย์ประจำกลุ่มวิชาการเงินการลงทุน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า นอกจากการเรียนการสอน รวมถึงกิจกรรมในภาคปฏิบัติแล้วนั้น อาจารย์ผู้สอนเองก็มีส่วนสำคัญที่ต้องมีความรู้ความเข้าใจในการให้คำชี้แนะแก่ผู้เรียนในการประกอบอาชีพ เนื่องจากวิชาชีพด้านการเงินมีความจำเป็นต้องมีการสอบเพื่อรับใบอนุญาต (License) ในการประกอบอาชีพ

อาทิ ใบอนุญาตที่ปรึกษาทางการเงิน ใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุน ใบอนุญาตนักวิเคราะห์การลงทุน (AISA) ซึ่งผู้เรียนจะสามารถเพิ่มพูนคุณวุฒิในการสอบจากรายวิชาได้ทันที และอาจารย์ผู้สอนเองก็มักจะมีประสบการณ์การสอบจึงสามารถถ่ายทอดประสบการณ์และคำแนะนำแก่ผู้เรียนที่มีความตั้งใจสอบรับใบอนุญาตเหล่านั้นได้

ในขณะที่โครงการสหกิจอาจารย์ มหาวิทยาลัย จะมีการส่งอาจารย์ผู้สอนที่ไม่มีภารกิจการสอนในช่วงภาคฤดูร้อน เข้าไปร่วมงานกับภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายของหอการค้าไทย ทำให้อาจารย์มีประสบการณ์การทำงานและความรู้ที่กว้างขวางเหนือกว่าเพียงตำราเรียน เพราะผู้เรียนในปัจจุบันต้องการผู้สอนที่มีประสบการณ์การทำงาน และสามารถฉายภาพการรับรู้แก่ผู้เรียนเกี่ยวกับโลกการทำงานได้ทันที