หนึ่งในวาระปฏิรูปประเทศของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี-คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือ การถอด-รื้อขึ้นโครงร่างเศรษฐกิจ
แผน-ไทม์ไลน์ปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อปฏิวัติ “เศรษฐกิจไทย” เพื่อสอดประสาน-รับ “เศรษฐกิจโลก” ถูกวางแปลน “พิมพ์เขียว” โดย “ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปเศรษฐกิจ เป็นผู้ก่อร่าง-ขึ้นโครง “เศรษฐกิจใหม่”
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
สร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ของการพัฒนาประเทศ (new engine of growth) ที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศในอีก 20 ปีข้างหน้า และช่วยทดแทนอุตสาหกรรมเก่า โดยมีการกำหนดเป้าหมายในอนาคต ประกอบด้วย 3 ระยะ
ระยะสั้น การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่เรามีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ (comparative advantages) อย่างแท้จริง เช่น เกษตรแปรรูป อาหาร ท่องเที่ยว สุขภาพ ยานยนต์ การค้า SMEs และการวิจัยและพัฒนา อุตสาหกรรมใหม่ เช่น เทคโนโลยีดิจิทัล และเทคโนโลยีชีวภาพ เรื่องนี้ต้องใช้เวลา 1-5 ปี
ระยะกลาง การพัฒนาตลาดให้มีความต่อเนื่องกัน (regional integration) เป็นฐานการผลิตเดียว เนื่องจากประเทศในกลุ่ม CLMVT มีขนาดตลาด 230 ล้านคน รวมประเทศบังกลาเทศ 160 ล้านคน จะทำให้ตลาดมีขนาดถึง 400 ล้านคน มีอัตราการขยายตัวสูงถึง 6-8% ต่อปี โดยมีการเชื่อมโยงกันผ่านโครงข่ายคมนาคมเพื่อเอื้อให้บริษัทต่าง ๆ เลือกใช้ไทยเป็นฐานในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค ใช้เวลา 7-10 ปี
ระยะยาว ก้าวเป็น innovation hub และ startup nation รายได้หลักมาจากการสร้างนวัตกรรมของเราเอง ใช้เวลา 15-20 ปี สร้าง ecosystem
ขณะที่การกระจายโอกาสเศรษฐกิจฐานราก เพื่อวางแนวทางใหม่ของการพัฒนาประเทศ 3 ระดับระดับ
ประเทศ/สังคม เป็นสังคมที่สมดุล ยกระดับประชาชนในกลุ่มต่าง ๆ ให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข การพัฒนาหัวเมืองใหญ่ ควบคู่ไปกับกรุงเทพฯ การจัดสรรงบประมาณให้กับจังหวัดที่ยากจน การสร้างระบบสวัสดิการ การปฏิรูประบบภาษี
ระดับชุมชน ต้องสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และสามารถร่วมกันพัฒนาความเข้มแข็งจากฐานราก รวมไปถึงการจัดให้มีสถาบันการเงินในชุมชน
ระดับบุคคล ต้องเพิ่มรายได้ให้กับทุกคนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเกษตรกรและกลุ่มแรงงานที่ยากจน โดยเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจเพื่อให้เขาสามารถยืนอยู่บนขาของตนเองได้