ผู้หญิงในโลกบริหาร “เราต้องปิดจุดอ่อนเพื่อสร้างจุดแข็ง”-

ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้หญิงนั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมากที่สุด ซึ่งจากงานวิจัยหลาย ๆ ผลงานแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการมีทีมผู้บริหารที่มีความหลากหลาย ซึ่งรวมถึงความหลากหลายทางเพศด้วย โดยเฉพาะเพศหญิงที่มีจุดแข็งด้านบริหารการเงิน และการตัดสินใจ อันเป็นส่วนสำคัญทางธุรกิจ

ฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่การสร้างสมดุลระหว่างเพศกลายเป็นวาระสำคัญของหลายบริษัททั่วโลก เพราะการก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำในองค์กรเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลาย ๆ คน ดังนั้น สตรีที่ประสบความสำเร็จจึงมีอิทธิพล ทั้งยังเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นอีกด้วย

ผลเช่นนี้ จึงทำให้สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย หรือ “TMA” จัดเวทีสัมมนา Women”s Leadership Forum 2017-Thailand โดยร่วมกับ สถาบัน International Association of Exhibitions and Events (IAEE) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเวทีของผู้หญิงที่มาจากต่างสายงาน และมากความสามารถ มาร่วมเผยมุมมอง และข้อคิดจากประสบการณ์การทำงาน และการดำเนินชีวิต

ผู้หญิงผลักดันเศรษฐกิจ

“ชู เลง โก” ผู้จัดการทั่วไปโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล กล่าวว่าองค์กรในยุโรปมองว่าการดำเนินธุรกิจไม่ว่าประเภทใดก็ตาม หากมีแต่ผู้ชายทำงานอย่างเดียว จะไม่สามารถเพิ่มมูลค่าแก่บริษัทได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และการมีความหลากหลายทางเพศในภาคธุรกิจจะช่วยส่งเสริม GDP ของประเทศให้ดีอีกด้วย

“สำหรับในเอเชียเมื่อผู้ชาย และผู้หญิงเริ่มต้นทำงานในเวลาไล่เลี่ยกัน โอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้นำของผู้หญิงจะน้อยกว่าผู้ชาย โดย 72% ของผู้หญิงมีความเห็นว่า สังคมจำกัดศักยภาพ เพราะมองว่าผู้หญิงไม่แข็งแรง ไม่กล้าหาญ ไม่กล้าตัดสินใจ ดังนั้น ผู้หญิงจึงจำเป็นต้องโต้ตอบอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เพราะเราอยากให้สังคมเข้าใจว่าความเข้มแข็งที่เป็นประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ร่างกายเสมอไป”

“ผู้หญิงมีอิทธิพลในการขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจภาพรวม และสังคมโดยรอบ ทั้งยังได้รับโอกาสมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับในอดีต ทั้งนั้น ผู้หญิงต้องปรับตัวให้มีความทันสมัย เข้าสังคมเป็น และทันเหตุการณ์ และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงต้องทำตัวให้พร้อมที่จะนำทีมให้ประสบความสำเร็จต่อไป”

ค้นหาศักยภาพตัวเองให้เจอ

ขณะที่ “กรรณิกา ชลิตอาภรณ์” กรรมการและกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารระดับสูงที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการธุรกิจที่มีความหลากหลายมาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี เปิดเผยแนวคิดว่าเรา มักจะได้ยินคนพูดถึงทัศนคติในการทำงานของคนเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ และวาย ว่าไม่มีความภักดีต่อองค์กร

“ดังนั้น ในฐานะผู้นำองค์กรจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวคิด ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ต้องสร้างองค์กรให้คนทำงานมีความสุข มีอิสระในการทำงาน มีความท้าทายในการทำงาน และมอบอำนาจให้คิด และตัดสินใจ จึงจะทำให้คนทำงานอยู่ในองค์กรนานขึ้น สำหรับข้อแนะนำผู้หญิงที่มีความฝันจะเป็นผู้นำในองค์กรคือ หนึ่ง ต้องเข้าใจความต้องการของตัวเองก่อนว่าจะเลือกความก้าวหน้าในอาชีพ หรือครอบครัว ถ้าเลือกครอบครัวก็ทำงานไปเรื่อย ๆ ก้าวหน้าช้ากว่าคนอื่นก็ไม่เป็นไร”

“สอง ต้องแสดงตัวตนให้ชัดเจนในบางครั้ง หากมีโอกาสที่เหมาะสม อย่าทำตัวเป็นวอลเปเปอร์ และจำเป็นต้องมีเครือข่าย ที่สำคัญ หัวหน้างานต้องส่งเสริมสนับสนุนทุกเพศอย่างเท่าเทียม ต้องพิจารณาจากขีดความสามารถ ไม่ใช่จากเรื่องเพศ เพราะชายกับหญิงมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มากจนเกินไป”

Women in Technology

“กัปตันสุวพิชญ์ ว่องวิริยะวาณิช” นักบินสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มองว่าผู้หญิงด้อยเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าผู้ชาย ดังนั้น เรื่องการขับเครื่องบินคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิง แต่ความจริงแล้วเทคโนโลยีถูกพัฒนามาให้ชีวิตง่ายขึ้น เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว และถ้าเรียนรู้มากพอ และใช้ทุกวันก็จะเกิดความเคยชิน ดังนั้น การขับเครื่องบินไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะเครื่องถูกสร้างให้มีระบบอัตโนมัติ แต่สิ่งที่ท้าทายที่สุดของอาชีพนี้คือการตัดสินใจเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน และการควบคุมอารมณ์

“ดิฉันเองมีความฝันอยากทำงานเกี่ยวกับเครื่องบินมาตั้งแต่เด็ก ๆ จึงเริ่มมองไปที่การเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นงานแรก แต่กลับค้นพบว่าไม่ใช่งานที่ชอบ จึงเริ่มเรียนอย่างหนักจนผ่านการคิดเลือกเป็นนักบิน จากวันนั้นถึงวันนี้ขับเครื่องบินมาเกือบ 8 ปีแล้ว ดิฉันจึงอยากเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนเชื่อมั่นว่าเรื่องเพศไม่ใช่อุปสรรคในการทำงานสายเทคโนโลยี แต่ต้องมีความมุ่งมั่น อดทน และเชื่อว่าวันหนึ่งผู้หญิงทุกคนจะได้ทำงานที่ตนเองใฝ่ฝันอย่างแน่นอน”

ปิดจุดอ่อน สร้างจุดแข็ง

“บุษยา มาทแล็ง” ปลัดหญิงคนแรกของกระทรวงการต่างประเทศ เธอเป็นผู้หญิงที่มีความมุ่งมั่นในการรับราชการ และการเป็นนักการทูต เธอบอกว่าทุกคนที่ทำงานสายราชการควรได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน ความก้าวหน้าขึ้นอยู่กับการวางตัวที่เหมาะสม และความมุ่งมั่นในการทำงานรับใช้ประเทศชาติ และประชาชน นอกจากนั้น ต้องมี Passion & Commitment ในการทำงาน ทั้ง 2 สิ่งนี้ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน แต่ต้องปลูกฝัง และกล่อมเกลาจิตใจมาตั้งแต่เด็กๆ

“ทุกงานล้วนมีคุณค่า ไม่ว่างานเล็กหรืองานใหญ่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหาคุณค่าของงานได้หรือไม่ เมื่อเราเข้าใจได้แบบนี้ เราต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด พยายามปิดจุดอ่อนเพื่อสร้างจุดแข็ง และสิ่งสำคัญในชีวิตการทำงานคือการสำรวจ และทบทวนตัวเองเป็นระยะ ๆ เพื่อหาจุดที่เราจะพัฒนาตัวเองไปสู่เป้าหมาย การกระทำที่เกิดจากความต้องการภายในจะก่อเกิดความยั่งยืนมากที่สุด หากมีข้อผิดพลาด อย่าท้อแท้ แต่จงเรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั้น ๆ เพื่อหาทางแก้ไข”

นับเป็นเวทีที่เปิดมุมมองให้มีความความเข้าใจแนวคิดของผู้หญิงในยุคปัจจุบัน ทั้งยังช่วยสะท้อนให้เกิดความตระหนักถึงศักยภาพของตนเองในการเดินก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ จนประสบความสำเร็จในที่สุด


ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทหน้าที่ใดก็ตาม