
ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือทีทีบี ประกาศรุกตลาดสินเชื่อบ้านเต็มสูบ ตั้งเป้าปล่อย 6.6 หมื่นล้านบาท ดันพอร์ตคงค้าง 3.2-3.3 แสนล้านบาท ปักธงโต “บ้านแลกเงิน-รีไฟแนนซ์-รวมหนี้” เป้า 1.2 หมื่นล้านบาท ส่งบัตรกดเงินสด “ทีทีบี บ้านแลกเงิน” ใบแรกของไทย เพิ่มความยืดหยุ่นการใช้วงเงิน คิดดอกเบี้ยตามการใช้จริงต่ำเพียง 6.78% ต่อปี ตั้งเป้าคนใช้ 5 พันใบ วงเงิน 2 พันล้านบาท มองเอ็นพีแอลต่ำ 2.4%
วันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบในไตรมาสที่ 1/65 อยู่ที่ 4.4 ล้านล้านบาท โดยเป็นในส่วนของธนาคารพาณิชย์ 2.6 ล้านล้านบาท ซึ่งในส่วนของทีทีบีมียอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ 3.1 แสนล้านบาท มีรอบอัตราการเติบโตเกือบ 1% จากสิ้นปี’64 ที่มียอดสินเชื่ออยู่ที่ 3.08 แสนล้านบาท สอดคล้องกับการเติบโตของตลาด โดยปัจจุบันธนาคารมีส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อยู่ที่ 12% หรืออันดับ 4-5 ของตลาด และมีฐานลูกค้ากว่า 1 แสนราย
โดยเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อบ้านในปีนี้อยู่ที่ 6.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นบ้านแลกเงินและรวมหนี้ราว 1.2 หมื่นล้านบาท ของยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ และมียอดคงค้างภายในสิ้นปีอยู่ที่ 3.2-3.3 แสนล้านบาท โดยในช่วง 6 เดือนแรกสามารถปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 2.73 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 3-4 จะเป็นช่วงฤดูกาลความต้องการสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์การเติบโตในช่วงที่เหลือของปีนี้ ธนาคารจะให้ความสำคัญกับ “สินเชื่อบ้านแลกเงิน” รวมถึงสินเชื่อรีไฟแนนซ์ และการส่งเสริมให้เกิดการรวมหนี้ (Debt Consolidation) เนื่องจากธนาคารมองว่าในช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เชื่อว่าผลิตภัณฑ์บ้านแลกเงินและตลาดรีไฟแนนซ์มีสัญญาณความต้องการเพิ่มขึ้น
รวมถึงการรวมหนี้จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยลูกค้าได้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารสามารถรวมหนี้ได้แล้ว 1,000 ล้านบาท สามารถลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้ากว่า 100 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้รวมหนี้จะเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท สามารถลดภาระดอกเบี้ยได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากดูสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของทีทีบี พบว่าปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 2.75% ถือว่าดอกเบี้ยต่ำติด 1 ใน 3 ของระบบธนาคาร ซึ่งกลุ่มนี้ดอกเบี้ยจะถูกกว่าสินเชื่อบ้านทั่วไป เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าดี ที่ผ่านการชำระหนี้มาแล้ว ขณะที่สินเชื่อบ้านทั่วไป หากเป็นโครงการที่เป็นพันธมิตรกับทีทีบี ดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.54%
“เป้าของของทีทีบี ก็เพื่อต้องการทำให้ชีวิตทางการเงินคนไทยดีขึ้น โดยครั้งนี้ทีทีบีค่อนข้างตกผลึกว่าการที่จะทำให้ชีวิตทางการเงินคนไทยดีขึ้น ต้องอาศัย 4 แกนด้วยกัน ฉลาดออมฉลาดใช้ รอบรู้เรื่องกู้ยืม ลงทุนเพื่ออนาคต มีความคุ้มครอง ที่อุ่นใจ ดังนั้นการนำโปรดักต์ทางการเงินมารวมกับการคุ้มครองด้านประกัน เช่นเงินฝากคุ้มครองฟรีอุบัติเหตุ สินเชื่อบ้านประกันอัคคีภัยตลอดสัญญา เหล่านี้ก็เพื่อเป็นการคุ้มครองดูแลผู้บริโภค ไม่ใช่เพียงแต่ เน้นการปล่อยกู้อย่างเดียว”
ทั้งนี้ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ “บ้านแลกเงิน” ธนาคารได้เปิดตัว “บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน” ถือเป็นครั้งแรกในวงการสินเชื่อบ้านในประเทศไทย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีบ้านปลอดภาระ โดยมีจุดเด่นลูกค้าเบิกเงินสดทันทีผ่านตู้เอทีเอ็ม ฟรีค่าธรรมเนียม หรือจะโอนวงเงินจากบัตรเข้าบัญชี ผ่านแอป ttb touch ก็สะดวก รับเงินทันที ทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่คิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน ตามจำนวนที่ใช้จริง ที่สำคัญดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรกดเงินสดทั่วไป เพียง 0.57% ต่อเดือน (คิดจากอัตราดอกเบี้ย MRR + 0.5% = 6.78% ต่อปี โดยปัจจุบัน MRR = 6.28% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2564) เช่น กรณี ลูกค้าเบิกใช้วงเงิน 1 แสนบาท จะคิดดอกเบี้ยเพียง 19 บาทต่อวัน
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเพียง 1% เพิ่มความยืดหยุ่นให้คุณจัดการเรื่องเงินได้ง่ายขึ้น โดยผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเพียง 1% หรืออยากโปะก็ทำได้ วงเงินจะคืนกลับเข้าบัตรทันที และยังมีบริการผ่อนชำระสินค้าและบริการ (ttb pay plan) ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 60 เดือน เลือกชำระคืนรายงวด งวดละเท่า ๆ กัน
สำหรับเป้าหมายการเติบโตในส่วนของ “บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน” คาดว่าจะอยู่ที่ 5,000 ใบ คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งโดยเฉลี่ยลูกค้าจะใช้วงเงินในบัตรประมาณ 3-4 แสนบาท และการหันมารุกตลาดบ้านแลกเงินมากขึ้น ธนาคารตั้งเป้าภายใน 5 ปี (ปี’65-69) จะขยับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อบ้านแลกเงินเป็น 15% จากปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 6-7% และประมาณ 81% เป็นสินเชื่อบ้านใหม่ และรีไฟแนนซ์ 13%
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ล่าสุดอยู่ที่ 2.4% ถือว่าอยู่ระดับต่ำ หากเทียบกับหนี้เสียในระบบที่เกิน 3% บางส่วนมาจากการบริหารจัดการหนี้เสีย ผ่านการขายหนี้ของธนาคาร
“บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน มาจากอินไซต์ลูกค้า เพราะเวลาที่ลูกค้านำบ้านมาแลกเงิน บางครั้งอาจไม่ต้องการเงินก้อนทั้งหมดครั้งเดียว ซึ่งแตกต่างกับบ้านแลกเงินในปัจจุบัน ที่มักให้เงินก้อนกับลูกค้าทันที และเมื่อเวลาครบชำระลูกค้าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยจากวงเงินที่อนุมัติทั้งหมด
แต่บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน แตกต่างตรงที่ ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เงินก้อน หรือใช้เฉพาะที่จำเป็น และจ่ายดอกเบี้ยเฉพาะที่เบิกใช้เท่านั้น ภายใต้ดอกเบี้ยถูก เพียง 6.78% หากเทียบกับดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดในตลาดที่คิดดอกเบี้ย 23-25% หรือคิดเป็น 0.57% ต่อเดือนเท่านั้น”