หุ้นไทยเนื้อหอม 8 เดือน ฟันด์โฟลว์ทะลุ 1.7 แสนล้านบาท

หุ้นไทย
ภาพ pixabay

ตลท.เผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยสิ้นเดือน ส.ค. 65 ผันผวนเล็กน้อย ดัชนีปิดที่ 1,638.93 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 4.0% ฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง 57,014 ล้านบาท สูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ทำให้ 8 เดือนปีนี้นับจากต้นปี ต่างชาติซื้อสุทธิรวม 170,744 ล้านบาท มองหุ้นไทยยังน่าสนใจจากเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัว

วันที่ 6 กันยายน 2565 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเป็นอีกหนึ่งเดือนที่ตลาดการลงทุนเต็มไปด้วยความผันผวน เพราะมีสัญญาณความกังวลเรื่องของเงินเฟ้อที่กลับมาอีกครั้ง บวกกับถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่แจ็กสัน โฮล โดยประธานเฟดพูดว่าจะยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะคุมเงินเฟ้อได้ หลังจากที่เงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าล่าสุดในเดือนกรกฎาคมจะมีการปรับตัวลดลงมา

ส่งผลให้ความกังวลต่าง ๆ กลับมาอีกครั้ง ทำให้นักลงทุนยังคงจับตามองการประชุมของเฟดในช่วงปลายเดือนนี้ว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้เท่าไหร่ โดยเบื้องต้นตลาดคาดการณ์จากท่าทีของเฟดในการประชุมที่แจ็กสัน โฮล คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้ที่ 0.50% หรือ 0.75%

อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศหลายประเทศจะเกิดความผันผวน แต่ตลาดหุ้นไทยแตกต่างกันออกไปเพราะผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นทั่วโลก โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 ตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิดที่ 1,638.93 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 4.0% จากเดือนก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค และเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 SET Index ปรับลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1.1%

นอกจากนี้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมายังเป็นเดือนที่ผู้ลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิถึง 57,014 ล้านบาท ทำให้ใน 8 เดือนปีนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิรวม 170,744 ล้านบาท และมีสัดส่วนมูลค่าซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาในเดือนสิงหาคมเป็นเงินที่ไหลเข้ามาจากนักลงทุนทุกประเภท

ทั้งนี้ในเดือนสิงหาคม 2565 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 บริษัท ได้แก่ บมจ.ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (TGE) และใน mai 1 บริษัท ได้แก่ บมจ.ยงคอนกรีต (YONG) โดยมูลค่าระดมทุนรวมในหุ้น IPO ของไทยปี 2565 อยู่ยังในระดับต้น ๆ ของเอเชีย

ด้าน Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 15.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 16.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.2 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.78% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.00%

ขณะที่ในเดือนสิงหาคม 2565 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 496,575 สัญญา เพิ่มขึ้น 6.7% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 TFEX ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 548,981 สัญญา เพิ่มขึ้น 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายศรพลกล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าเงินลงทุนต่างชาติจะยังทยอยไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเพิ่งฟื้นตัว ต่างจากประเทศอื่นที่ฟื้นตัวไปก่อนแล้ว ทำให้ไทยยังมีโอกาสในการที่จะเติบโตอยู่มากจากภาคท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ อีกทั้งผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่เติบโตดี โดยเฉพาะในไตรมาส 2/2565 ที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีกำไรสุทธิรวม 3.5 แสนล้านบาท จึงเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจอยู่

ด้าน นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า คำแนะนำการลงทุนท่ามกลางตลาดที่มีความผันผวนอยู่มาก แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ตัวเองสามารถรับความเสี่ยงได้ เพราะทุกสินทรัพย์มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และควรรู้จักกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้ โลกการลงทุนในอนาคตจะมีอะไรให้เลือกอีกมาก ฉะนั้นนักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจสิ่งที่จะเข้าลงทุนให้มากขึ้น