บอร์ดสลากเคาะ “หวย 3 หลัก” ใบละ 50 บาท 29 ก.ย. นี้

สลากกินแบ่งรัฐบาล

สำนักสลากเอาแน่ขายหวยดิจิทัล 3 หลัก ชงบอร์ด 29 ก.ย.นี้ไฟเขียว หวังแก้ปมลอตเตอรี่เกินราคาอีกเฮือก เล็งขายใบละ 50 บาท ลุ้น 4 รางวัลรวมถึง “แจ็กพอต” ปักธงเริ่มจำหน่ายต้นปี’66 พร้อมเสนอแนวทางแก้ปัญหาแย่งคิวจอง-ซื้อล่วงหน้า ยันยึดหลักเท่าเทียม-เป็นธรรม

ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ปัจจุบันการแก้ปัญหาสลากเกินราคาทำได้ประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยระยะเวลาจากนี้ไปถึงปีหน้าจะเริ่มได้เห็นความเป็นรูปธรรมมากขึ้นเป็นลำดับ

ซึ่งประเด็นหลักที่จะดำเนินการจะเริ่มที่การเร่งแก้ปัญหาระบบการซื้อจองของผู้ค้ารายย่อยที่อยู่ในระบบสลากซื้อจองที่มีจำนวน 1.5 แสนคน หลังจากเกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเพื่อแย่งบัตรคิว ซึ่งปัจจุบันการซื้อจองสลาก สามารถซื้อจองได้ผ่านระบบเน็ตแบงก์ 90% อีก 10% เป็นการซื้อจองในระบบของตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย

ดังนั้นสำนักงานสลากฯย้ำผู้ค้ารายย่อยว่า ไม่จำเป็นต้องไปยืนรอที่หน้าตู้เอทีเอ็ม สามารถซื้อจองได้ผ่านระบบแอปพลิเคชั่น จะเป็นวิธีที่ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีแผนการที่จะลดอุปสรรคเหล่านี้ให้เกิดขึ้นน้อยลงด้วย

ส่วนที่สองจากการรับฟังความเห็นจากผู้ซื้อ ผู้ขายรายย่อย และผู้ขายในระบบดิจิทัล เกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นเลขสลาก 3 หลักเข้าสู่ระบบ โดยจะมีการซื้อขายผ่านระบบดิจิทัลหรือแอปพลิเคชั่นเป็นหลัก ซึ่งผลที่ออกมาค่อนข้างจะมีกระแสตอบรับในเชิงบวก โดยจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาถึงรูปแบบและการจัดจำหน่าย ราคาและวิธีการ

รวมถึงความพร้อมในการเริ่มต้นดำเนินการต่อไป โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะจำหน่ายใบละ 50 บาท โดยการซื้อสลาก 1 ใบ สามารถลุ้นได้ 4 รางวัล คือ รางวัล 3 ตัวตรง จ่ายเงินรางวัลขั้นต่ำบาทละ 200 บาท, รางวัล 3 ตัวสลับหลัก หรือ 3 ตัวโต๊ด จ่ายขั้นต่ำบาทละ 100 บาท, รางวัล 2 ตัว จ่ายขั้นต่ำบาทละ 50 บาท และรางวัลแจ็กพอต จ่ายรางวัล 1% ของ 60% จากยอดขายสลากในงวดนั้น ๆ

“คาดว่าสลาก 3 หลักจะเข้ามาช่วยเสริมระบบของการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสลากในราคาที่อยู่ตามกฎหมายมากขึ้น” ผศ.ดร.ธนวรรธน์กล่าว

ขณะที่พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาระบบการซื้อจองของตัวแทนรายย่อย จากจำนวนสลากที่มีจำนวนน้อยลง แต่มีตัวแทนเข้ามาในระบบมากขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาโดยการเพิ่มจำนวนสลากเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด

เพราะจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงผู้ซื้อเป็นหลัก ซึ่งหมายถึงจำนวนสลากจะต้องสมดุลกับจำนวนผู้ซื้อ โดยจะพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาการซื้อจองที่หน้าตู้เอทีเอ็มโดยใช้หลักเท่าเทียมเเละเป็นธรรม

ส่วนเรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการลงไปสำรวจความคิดเห็นและศึกษาผลกระทบ ผลออกมาในเชิงบวกทั้งในแง่ของกลุ่มผู้ค้าปัจจุบันและกลุ่มผู้ซื้อทุกกลุ่ม โดยตั้งเป้าภายในต้นปี 2566 หรือไม่เกินเดือน ก.ย.ปี 2566 จะต้องสามารถดำเนินการเริ่มขายสลาก 3 หลักได้สำเร็จ

“ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ทั้งนี้ การที่สำนักงานสลากฯมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ไม่ได้ต้องการให้ผู้ขายเดิมได้รับผลกระทบ และยังคงต้องการให้อาชีพผู้ขายสลากเป็นของผู้ขายเดิมและสามารถทำมาหากินได้แบบใกล้เคียงปกติ

ทั้งนี้ คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลจะประชุมในวันที่ 29 ก.ย. นี้ ซึ่งสำนักงานสลากฯจะเสนอให้คณะกรรมการสลากพิจารณาแนวทางสำหรับแก้ปัญหาและดำเนินการต่อไป” พันโทหนุนกล่าว