แบงก์พาเหรดปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม กนง. ขยับ MRR น้อยอุ้มรายย่อย

ธนาคาร แบงก์ เอทีเอ็ม ATM
ภาพ ประชาชาติธุรกิจ

แบงก์ทยอยประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย “เงินฝาก-เงินกู้” หลัง กนง. มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% “กสิกรฯ” พยุงรายย่อย ยังไม่ปรับดอกกู้รายย่อย “BBL” ปรับน้อยกว่ารายใหญ่ ขณะที่ “ทีทีบี” ปรับดอกรายย่อยต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย “กรุงศรี-ไทยพาณิชย์” เร่งนำเรื่องเข้าบอร์ด ฟากแบงก์รัฐตรึงดอกกู้-ขึ้นดอกฝาก “ธอส.” กัดฟันไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ถึงสิ้นปี

วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาอยู่ที่ 1% ต่อปี ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยกันแล้ว เริ่มจากธนาคารกรุงเทพ (BBL) ที่นำร่องปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ โดยเงินกู้นั้น ปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เพิ่มขึ้น 0.40% ต่อปี, ปรับ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.375% ต่อปี และ ปรับอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เพิ่มขึ้น 0.30% ต่อปี

ส่วนดอกเบี้ยเงินฝาก ปรับเพิ่มขึ้น 0.15-0.50% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2565

นางรัชนี นพเมือง รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มผู้ฝากเงิน และเพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบกับกลุ่มเปราะบาง ในด้านเงินกู้ ธนาคารจึงได้ปรับอัตราดอกเบี้ย MRR ในอัตราที่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อื่น ๆ

ต่อมาธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MLR ที่ 0.25% จาก 5.47% เป็น 5.72% และ อัตราดอกเบี้ย MOR ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 5.84% เป็น 6.09% ส่วนดอกเบี้ยเงินฝากประจำปรับให้สูงขึ้น 0.10%-0.50% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2565

โดยนายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารตอบสนองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวของ ธปท. แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อเพิ่มกำลังซื้อและช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการรายเล็ก ในภาวะที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ธนาคารจึงปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำให้สูงขึ้น 0.10%-0.50%

สำหรับฝั่งเงินกู้นั้น เพื่อให้กระทบลูกค้ารายย่อยน้อยที่สุด ธนาคารจึงส่งผ่านอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยปรับเพิ่มดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2565 ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย MLR ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 5.47% เป็น 5.72% และ อัตราดอกเบี้ย MOR ปรับเพิ่ม 0.25% จาก 5.84% เป็น 6.09%

รายต่อมา ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ สอดรับกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น มุ่งเน้นดูแลลูกค้าสินเชื่อรายย่อย โดยปรับอัตราดอกเบี้ย MRR เพิ่มขึ้น 0.20% ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นที่น้อยกว่าการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในขณะที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MLR 0.25% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MOR 0.25% โดยการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ปรับขึ้นดอกเบี้ยฝากประจำ อยู่ที่ระหว่าง 0.15% – 0.80% ต่อปี ซึ่งรวมถึงบัญชีเงินฝากพิเศษ ทีทีบี อัพ แอนด์ อัพ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุก ๆ 6 เดือน และได้รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มุ่งเน้นการออมในบัญชีดอกเบี้ยสูง เพิ่มสภาพคล่อง ถอนได้ก่อนกำหนดไม่ถูกลดดอกเบี้ย และเริ่มฝากขั้นต่ำได้ที่ 5,000 บาท โดยธนาคารได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดจาก 1.80% เป็น 2.50% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไปเช่นกัน

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีทีบี กล่าวว่า ทีเอ็มบีธนชาตได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบและยึดมั่นในแนวทางการช่วยเหลือและดูแลลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่จะใช้แนวทางการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับตัวและบริหารจัดการสภาพคล่องได้

นอกจากนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) และ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ต่างระบุว่า อยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยจะมีการทำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร และ น่าจะประกาศออกมาในเร็ว ๆนี้
ด้านธนาคารทิสโก้ ประกาศแคมเปญเงินฝากเอาใจนักออม รับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยประกาศดอกเบี้ยเงินฝากประจำพิเศษ 17 เดือน อัตราดอกเบี้ยสูง 1.8% ต่อปี วงเงินฝาก 500,000 บาทขึ้นไปสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า จากการหารือกับคณะกรรมการธนาคาร ยังยืนยันพร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านไว้ให้นานที่สุดอย่างน้อยถึงสิ้นปี 2565 เพื่อแบ่งเบาภาระและให้เวลาลูกค้าในการปรับตัว ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทต่าง ๆ จะมีการปรับขึ้นในเร็ว ๆนี้
ส่วนธนาคารออมสิน ก็ประกาศว่า ในเบื้องต้นธนาคารคาดว่าจะมีการพิจารณาการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เพิ่มขึ้น แต่ในส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับปัจจุบันต่อไป เชื่อช่วยเหลือผู้กู้และประชาชน