บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (Mai) วันแรก 25 ต.ค.นี้ โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “ITNS”
วันที่ 24 ตุลาคม 2565 บมจ. อินเตอร์เนชั่นแนล เน็ตเวิร์ค ซิสเต็ม เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (Mai) วันแรก 25 ต.ค.นี้ ด้วยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “ITNS” โดยบริษัทเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร (System Integrator) พร้อมทั้งจำหน่ายอุปกรณ์ที่ใช้ในงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร การให้บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษาอุปกรณ์ และการให้เช่าอุปกรณ์
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ธปท. ประกาศแต่งตั้ง-โยกย้ายผู้บริหารระดับสูง มีผล 1 ต.ค.นี้
สัดส่วนรายได้
โครงสร้างรายได้ของบริษัท ในปี 2562-2564 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมมูลค่าเท่ากับ 282.63 ล้านบาท 375.39 ล้านบาท 370.95 ล้านบาท และ 176.05 ล้านบาท ตามลำดับ โดยบริษัทมีรายได้หลักจากการจำหน่ายอุปกรณ์และให้บริการติดตั้ง คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยประมาณร้อยละ 72.64-77.74 ของรายได้รวม และรายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย
คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยประมาณร้อยละ 18.44-24.91 ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้ส่วนที่เหลือมาจากรายได้จากการให้เช่าอุปกรณ์ คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยประมาณร้อยละ 1.30-8.01 ของรายได้รวม
สรุปฐานะทางการเงิน
ณ สิ้นปี 2562-2564 และไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทมีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 233.49 ล้านบาท 293.62 ล้านบาท 264.36 ล้านบาท และ 281.49 ล้านบาท ตามลำดับ โดยสินทรัพย์ที่สำคัญของบริษัท ได้แก่ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น สินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา สินค้าคงเหลือ ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า สินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียนอื่น และที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ รวมทั้งสิ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 97.94-99.13 ของสินทรัพย์รวม
สรุปผลการดำเนินงาน
ในปี 2562-2564 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัท มีกำไรสุทธิจำนวนประมาณ 21.25 ล้านบาท 28.83 ล้านบาท 32.59 ล้านบาท และ 22.23 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 7.52 ร้อยละ 7.68 ร้อยละ 8.78 และร้อยละ 12.63 ตามลำดับ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 18 มีนาคม 2565 และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน
ครั้งนี้ สรุปได้ดังนี้
ขายหุ้นไอพีโอ 70 ล้านหุ้น
โดยเสนอขายต่อประชาชน จำนวน 70,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 31.82 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ (ทั้งในกรณีที่เสนอขายหุ้นรวม และไม่รวมการจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน) มีสัดส่วนการเสนอขายหุ้น ดังนี้
แผนระดมทุน
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 253.98 ล้านบาท (โดยมีการเสนอขายหุ้นทั้งจำนวน และไม่รวมกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน) หรือประมาณ 253.98 ล้านบาท (โดยมีการเสนอขายหุ้นทั้งจำนวน และรวมกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน) ภายหลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหลักทรัพย์ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
จ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40%
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะของบริษัทฯ และหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสะสมอื่น ๆ ตามที่บริษัทกำหนด
ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน แผนการลงทุน ความจำเป็น และความเหมาะสมอื่น ๆ ในอนาคต ตามที่คณะกรรมการบริษัท และ/หรือผู้ถือหุ้นของบริษัทเห็นสมควร