บีโอเจคงดอกเบี้ย-เงินเยนอ่อนค่าต่อ ญี่ปุ่นเดินเกมสวนทาง “เฟด”

เงินเยน
REUTERS/Thomas White/Illustration/File Photo

ห้องค้ากสิกรไทย ประเมินแนวโน้มเงินเยนอยู่ฝั่งอ่อนค่า จากการที่ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายการเงินสวนทาง “เฟด” ต่อเนื่อง ล่าสุดบีโอเจประกาศคงดอกเบี้ยนโยบาย-ควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตร-คงมาตรการเข้าซื้อบอนด์

วันที่ 28 ตุลาคม 2565 ฝ่ายงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (ห้องค้ากสิกรไทย) รายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) คงดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง ด้วยมติเอกฉันท์ให้ (1) คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ -0.1%

(2) ควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield curve contol) อายุ 10 ปีที่ใกล้ศูนย์ และ (3) คงการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไม่จำกัดที่ 0.25% รวมถึงคงการซื้อ ETFs ไม่เกิน 12 ล้านล้านเยน และ J-REITs ไม่เกิน 1.8 แสนล้านเยนต่อปี และซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนในปริมาณใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 รวมทั้งซื้อตราสารหนี้เอกชนระยะสั้น (Commercial paper) 2 ล้านล้านเยน และหุ้นกู้เอกชน (Corporate bond) 3 ล้านล้านเยน

โดยบีโอเจพร้อมดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมหากจำเป็น โดยในระยะข้างหน้าคาดว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาวจะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือต่ำกว่าปัจจุบัน

บีโอเจประเมินว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี บีโอเจมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ โดยคาดจีดีพี 2022 ขยายตัว 2.0% จากที่คาด 2.4% ในขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อไปอยู่ที่ 2.9% จาก 2.38 ที่คาดไว้เดิม จากราคาพลังงาน ราคาอาหาร และสินค้าคงทนที่เพิ่มขึ้น ด้านความเสี่ยงของเศรษฐกิจอยู่ในทางด้านลบ และความเสี่ยงของเงินเฟ้ออยู่ในด้านสูง


“ค่าเงินเยนผันผวนในทั้ง 2 ทิศทางหลังการประกาศของบีโอเจ ก่อนกลับมาอยู่ที่ระดับใกล้เดียงเดิม ห้องค้ากสิกรไทยประเมินว่าค่าเงินเยนยังคงมีแนวโน้มอยู่ในฝั่งอ่อนค่า จากการดำเนินนโยบายการเงินสวนทางกับเฟด (ธนาคารกลางสหรัฐ)”