ttb แนะผู้นำเข้า-ส่งออก ปิดความเสี่ยงค่าเงินผ่าน local currency services

TTB

ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี หนุนลูกค้านำเข้า-ส่งออกรับมือกับภาวะเศรษฐกิจ-ความผันผวนของค่าเงินด้วย “ttb local currency services” เครื่องมือบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ช่วยลูกค้าบริหารต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น เผยธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศมีสัดส่วน 120% ของจีดีพี

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 นางสาวบุษรัตน์ เบญจรงคกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี กล่าวว่า ปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย คิดเป็นสัดส่วน 120% ของ GDP มีผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกที่ทำการค้าโดยเฉพาะกับคู่ค้าที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกถึง 36% ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวม

และหากพิจารณาสัดส่วนของประเทศคู่ค้าหลักที่ทำการค้ากับประเทศไทย ได้แก่ จีน คิดเป็นสัดส่วน 18% อาเซียน 18% ขณะที่ตัวเลขการส่งออกของไทยล่าสุดเดือนกันยายน 2565 มีมูลค่า 23,036 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าในทวีปอเมริกาเหนือที่เติบโตดี และการอ่อนค่าของเงินบาทช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าไทย

บุษรัตน์ เบญจรงคกุล
บุษรัตน์ เบญจรงคกุล

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ค้าขายกับคู่ค้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยังใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินหลักในการค้าขายอยู่ถึง 77% ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยง โดยเฉพาะต้นทุนในการบริหารจัดการธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่มาจากปัญหาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เห็นได้จากเงินบาทที่อ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี ตามแนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่เกิดจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ เพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ซึ่งการอ่อนค่าของเงินบาทเป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค

ทีเอ็มบีธนชาต แนะนำให้ผู้ประกอบการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปิดความเสี่ยงล่วงหน้า หรือเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินท้องถิ่น (Local Currencies) ในการดำเนินธุรกิจ อาทิ สกุลเงินหยวน สกุลเงินเยน และสิงคโปร์ดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินท้องถิ่นมีการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับเงินบาท ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ที่ยังคงมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง ตามทิศทางการปรับตัวดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ หากผู้ประกอบการกระจายมาใช้ค่าเงินท้องถิ่น จะช่วยให้การบริหารต้นทุนธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินได้เป็นอย่างดี

“ปัจจุบันเครื่องมือที่ใช้ป้องกันความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินในภูมิภาคนี้ ยังมีอยู่อย่างจำกัด และมีความยุ่งยากในเรื่องเอกสาร ทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มเอสเอ็มอียังคงอาศัยดอลลาร์สหรัฐเป็นหลักในการค้าขายกับคู่ค้า ธนาคารจึงได้พัฒนาเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของสกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ttb local currency services ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้า (Hedging Forward) สำหรับสกุลเงินท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการบริหารธุรกรรมต่างประเทศ โดยใช้หลากหลายสกุลเงินมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นเงินหยวนของจีน มาเลเซียริงกิต อินโดนีเซียรูเปี๊ยะ และดอลลาร์สหรัฐ ฯลฯ และจุดเด่นของทีทีบีก็คือ เรามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาและแนะนำผู้ประกอบการตลอดทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการค้าขาย โดยใช้สกุลเงินในภูมิภาค และการป้องกันความเสี่ยงด้วยเครื่องมือ Hedging ประเภทต่าง ๆ เพื่อทำให้การบริหารความเสี่ยงด้วยค่าเงินภูมิภาคเป็นเรื่องที่ง่าย และผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุด” นางสาวบุษรัตน์กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศที่สนใจบริการ ttb local currency services เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สามารถสอบถามรายละเอียดและขอคำปรึกษาเรื่องการบริหารความเสี่ยงได้ โดยลูกค้าธุรกิจสอบถามที่ เจ้าหน้าที่การตลาดธุรกิจตลาดเงินของท่าน