
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (SVR) จ่อเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 130 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หวังระดมทุนรองรับแผนการต่อยอดการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ มุ่งสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ
วันที่ 2 ธันวาคม 2565 นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำหุ้นบริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “SVR” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อย่อ “SVR” ว่า
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการระดับสูงของ กทม. พ้นจากตำแหน่ง 2 ราย
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.5 ล้านคน ได้สิทธิลอตแรก รับเงินกี่บาท เช็กที่นี่
หลังจาก บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาท
ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับ 1 แบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์แล้วในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 เป็นที่เรียบร้อย โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาการเสนอขายหุ้น IPO และวันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้จะนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทในอนาคต
สำหรับสิวารมณ์ “SVR” เป็นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living” โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์โครงการที่อยู่อาศัย เช่น ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตสูง ทำเลที่ตั้งของโครงการมีศักยภาพ ใกล้แหล่งชุมชน สถานที่ทำงาน แหล่งสาธารณูปโภคทางด้านคมนาคม (ถนนสายหลัก ทางด่วน มอเตอร์เวย์ สถานีรถไฟฟ้า)
โดยบริษัทมีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 31 กันยายน 2565 มีรายได้รวม 532 ล้านบาท กำไรสุทธิ 36 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2564 มีรายได้จากการขาย 576 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้จากการขาย 557 ล้านบาท กำไรสุทธิ 42 ล้านบาท และปี 2562 มีรายได้รวม 243 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัท ที่สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่ง จนสามารถสะท้อนให้เห็นถึงรายได้และกำไร ที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นายอรรถปวิทย์ มโนธรรมรักษา กรรมการผู้จัดการ SVR เปิดเผยว่า แผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นก้าวสำคัญของสิวารมณ์ “SVR”
โดยวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ บริษัทมีแผนในการนำเงินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวไปในทำเลสำคัญ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ผ่านกลยุทธ์การพัฒนาโครงสร้างอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แนวคิด “Best Smart Living” ที่ขับเคลื่อนด้วย 4 “S” SMART
1) ทำเลที่ตั้งโครงการที่มีศักยภาพ (SMART Location) โดยมุ่งเน้นการเลือกทำเลที่ตั้ง เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ จากสภาพแวดล้อม สภาพเศรษฐกิจบริเวณโดยรอบโครงการ ที่มีศักยภาพและเหมาะสม
2) การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย (SMART Function) มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับออกแบบรูปแบบบ้าน เพื่อสอดรับกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกช่วงอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ตอบสนองต่อรูปแบบการใช้ชีวิตสมัยใหม่ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3) ความคุ้มค่าในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย (SMART Value) มุ่งเน้นศึกษารูปแบบโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการและก่อสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ มีการใช้พื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอบสนองความต้องการใช้งานได้จริง เพื่อสร้างความคุ้มค่าและความประทับใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อโครงการบ้าน
4) ความทันสมัยและความสะดวกสบาย (SMART Home) มุ่งเน้นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้าร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน มีระบบการสั่งการได้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์ (Smart Network) เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยภายใต้สโลแกน “ควบคุมง่าย ๆ อยู่ที่ไหนก็สั่งได้”