สลากดิจิทัล เพิ่มเป็นกว่า 17 ล้านฉบับ เริ่มงวด 17 ม.ค. 66

สลากดิจิทัล

สำนักงานสลากฯ แจง สลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง ผลตอบรับดี งวด 17 ม.ค. 66 เพิ่มเป็น 17.129 ล้านฉบับ การันตีโอนเงินรางวัลเข้าทุกบัญชี ภายใน 2 ชั่วโมง ย้ำตัวแทนจำหน่ายผู้ซื้อ-จองล่วงหน้า ต้องปฏิบัติตามสัญญา-เงื่อนไขการจำหน่ายเคร่งครัด ห้ามขายเกินราคาหรือขายส่ง

วันที่ 29 ธันวาคม 2565 นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่ ปี 2558 เป็นต้นมา การแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา มีความเข้มข้นและเป็นรูปธรรมมากขึ้น มีการระดมมาตรการต่าง ๆ มาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน

โดยมีโรดแมปการดำเนินงาน 3 ระยะ ในระยะแรก เป็นการจัดระเบียบและการบังคับใช้กฎหมาย ได้มีการปรับระบบการจัดสรรสลากตัวแทนรายย่อยให้เหลือรายละ 5 เล่ม เท่ากันหมดทุกคน โดยให้เฉพาะนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรและองค์กรการกุศล และองค์กรคนพิการเท่านั้น มีการปรับสัดส่วนเพิ่มกำไรให้กับตัวแทนจำหน่าย

โดยเพิ่มส่วนลดให้จากเดิม 7% ได้กำไรฉบับละ 5.60 บาท ปรับเป็น 12% ได้กำไร ฉบับละ 9.60 บาท เพื่อให้ตัวแทนรายย่อยมีกำไรมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงรางวัลสลาก โดยปรับรางวัลเลยท้าย 3 ตัว จากเดิม 4 รางวัล เปลี่ยนเป็นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัล และรางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัล เพื่อแก้ปัญหาเรื่องสลาก เลขไม่สวย ขายไม่หมด เพิ่มปริมาณสลากต่องวดให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อลดปัญหาเกินราคา

นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายสลาก และมีการใช้มาตรการทางกฎหมายบังคับใช้ ในกรณีที่ตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจองล่วงหน้าไม่ปฎิบัติตามสัญญาและเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายสลากเกินราคา มีการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย
รวมถึงการไม่จำหน่ายสลากปลีกด้วยตนเอง แต่นำไปขายต่อให้แพลตฟอร์มเอกชนต่าง ๆ จะถูกยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่ายและยกเลิกการเป็นผู้ซื้อจองล่วงหน้า โดยในปี 2565 ได้ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว 23,689 ราย

นายธนวรรธน์กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินการตามโรดแมป ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นการปรับแผนและทิศทางการจำหน่ายสลากนั้น สำนักงานได้พัฒนาระบบจำหน่ายสลาก โดยจัดให้มีโครงการซื้อ-จอง ล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านธนาคารกรุงไทย ควบคู่ไปกับระบบจำหน่ายผ่านตัวแทนระบบเดิม ทำให้สามารถมีสลาก กระจายไปทั่วประเทศ ผู้ค้าสลาก เข้าถึงสลาก ได้ในราคาทุนโดยตรงไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม ปัจจุบัน มีสลากในระบบซื้อจองล่วงหน้า 50% ของปริมาณสลากทั้งหมดที่พิมพ์ออกจำหน่าย

นอกจากนี้ สำนักงานได้ดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง ผ่านมาแล้วรวม 13 งวด ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมีการปรับตัวทำให้การจำหน่ายสลากดิจิทัล มีความคล่องตัว ประกอบกับเมื่อถูกรางวัลสามารถเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเข้าบัญชีของทุกธนาคารได้ภายใน 2 ชั่วโมง นับเป็นการขึ้นเงินรางวัลที่สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก ทำให้กระแสตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง

จนถึงขณะนี้ ได้มีการเพิ่มปริมาณสลาก โดยในงวด 17 มกราคม 2566 จะมีปริมาณสลาก 17,129,000 ใบ เป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย 34,258 ราย ทั้งนี้ ปริมาณสลากเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา 901,500 ใบ

“สำนักงานมุ่งมั่นที่จะเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัล เพื่อให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อรวมกับจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งเป็นสลากใบ ที่มีการกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศอีก 1,047 จุด จำนวนสลากประมาณเกือบสามล้านฉบับ

ทำให้ขณะนี้ มีสลากที่จำหน่ายในราคาไม่เกิน 80 บาท ตามราคาที่กำหนดอย่างน้อย 19.5 ล้านฉบับ คิดเป็นเกือบร้อยละ 20 ของปริมาณสลากทั้งหมด 100 ล้านฉบับที่สำนักงานพิมพ์ออกจำหน่าย”

การดำเนินการดังกล่าว ทำให้ผู้ซื้อสลากมีทางเลือกในการซื้อสลากในราคา 80 บาท ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและกว้างขวาง โดยใช้เทคโนโลยีที่ทุกคนเข้าถึงได้คือ แอปเป๋าตัง และจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท โดยสำนักงานสามารถเพิ่มปริมาณสลากได้ตามความต้องการจริงของสังคม