กรุงเทพประกันภัย เสริมความมั่นคงให้พนักงาน เพิ่มอัตราเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสูงสุด 15% เริ่มเดือน ม.ค. 66 เป็นต้นไป
วันที่ 9 มกราคม 2566 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI มุ่งพัฒนาศักยภาพเเละดูเเลเอาใจใส่พนักงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยเห็นถึงความสำคัญของการมีเงินออมอย่างเพียงพอต่อการดำรงชีพภายหลังการเกษียณอายุ จึงมีการปรับอัตราเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้พนักงานทุกระดับ โดยเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุงานสูงสุดอยู่ที่ 15% เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
การส่งเสริมให้เกิดการออมระยะยาว เป็นอีกหนึ่งเเนวทางสำคัญที่บริษัทตระหนักว่าจะช่วยสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตของพนักงานให้มีความมั่นคง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนเเละเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทได้นำเสนอทางเลือกให้แก่พนักงานผ่านแผนการลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถจัดสรรการลงทุนได้ตามความเสี่ยงเเละไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมกับตนเอง
ทั้งการลงทุนแบบสมดุลความเสี่ยงและสมดุลตามอายุ รวมกว่า 11 เมนู โดยมีการจัดสรรการลงทุนระหว่างสินทรัพย์เพื่อความมั่นคง (Stability Assets) อย่างตราสารหนี้ภาครัฐเเละเอกชนในประเทศ ตราสารหนี้ต่างประเทศ และสินทรัพย์เพื่อการเจริญเติบโต (Growth Assets) ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสินทรัพย์ทางเลือกต่าง ๆ
โดยกรุงเทพประกันภัย มีการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างมีมาตรฐาน โปร่งใสและเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงการรักษาผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกอย่างเหมาะสม ส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน