ไทยวิวัฒน์ ชี้ปี’66 ท้าทาย เดินธุรกิจระวัง ตั้งเป้าเบี้ย 8 พันล้าน โตเกือบ 10%

จีรพันธ์ อัศวะธนกุล
จีรพันธ์ อัศวะธนกุล

ซีอีโอ ‘ประกันภัยไทยวิวัฒน์’ ชี้ปี 2566 ยังเต็มไปด้วยความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกช่วงครึ่งปีแรกที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย คาดเดินเกมธุรกิจต้องระมัดระวัง-conservative บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างดีที่สุด เพื่อเติบโตยั่งยืนและมั่นคง กางเป้าเบี้ยรับรวมโตทะลุ 8,000 ล้านบาท รุกตีตลาดประกันภัยส่วนบุคคล-สุขภาพ-EV พร้อมลุยเจรจาเพิ่มช่องทางขาย-ขยายเครือข่ายโรงพยาบาลทั่วทุกภูมิภาค

วันที่ 22 มกราคม 2566 นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เปิดเผยว่า ปี 2566 ยังเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายรอบด้าน ทั้งในและต่างประเทศ ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งแรกของปีที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ดังนั้นเรายังต้องระมัดระวัง เดินเกมอย่าง conservative บริหารจัดการความเสี่ยงอย่างดีที่สุด เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและมั่นคง

โดยบริษัทตั้งเป้าจะผลักดันเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2566 จะเติบโตทะลุ 8,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 10% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำผลงานเบี้ยทะลุเป้า 7,000 ล้านบาท โดยมีเบี้ยรับรวมมาอยู่ที่ 7,300 ล้านบาท

ทั้งนี้สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่อย่างลงตัว ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภค และภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์ “องค์กรด้านประกันภัยแห่งนวัตกรรม

โดยกลุ่ม Motor เตรียมยกระดับ การบริการ โดยมีการเพิ่มเน้นศักยภาพและลูกเล่นใหม่ ๆ ที่แตกต่างในแบบ “การประกันรถเปิดปิด” ให้สอดรับและเชื่อมต่อทุกจังหวะการใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ พร้อมขยายฐานลูกค้าประกันภัยรถยนต์ให้กว้างมากขึ้น ด้วยการพัฒนาประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยรูปแบบประกันภัยทั้ง แบบ “การประกันรถเปิดปิด” และ “แบบรายปี” ที่ให้ความคุ้มครองเต็มรูปแบบครบทุกกรณี

ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้เอาประกัน พร้อม ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก รวมถึงความสูญเสียจากรถหาย, ไฟไหม้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นได้ทำการพัฒนาโดยใช้นวัตกรรม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เอาประกันตั้งแต่ยังไม่เริ่มการทำประกัน และทุกขณะของการเป็นผู้เอาประกันของบริษัท

ADVERTISMENT

ขณะที่กลุ่ม Non-Motor บริษัทเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่วนบุคคล อาทิ ประกันโรคร้ายแรง และประกันสุขภาพ Active Health ในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมขยายไปในตลาดในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และจังหวัดพื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ

เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้ดี จากแนวโน้มปริมาณและราคาผลผลิตสินค้าทางการเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดโลก ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะชูจุดเด่นด้านบริการที่สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย เพิ่มความคุ้มครอง ขยายสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตเฉพาะบุคคลได้อย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมขยายเครือข่ายโรงพยาบาลในทุกภูมิภาคให้ครอบคลุ่มทุกหย่อมหญ้าให้มากสุด

ADVERTISMENT

นายจีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายช่องทางการขาย ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor ให้ครอบคลุมมากขึ้น อาทิ นายหน้าในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และสถาบันการเงิน เป็นต้น เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงการประกันภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภค ไปพร้อม ๆ กับการยกระดับภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสผนึกความร่วมมือพันธมิตรใหม่ ๆ ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน InsurTech ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง