วิริยะประกันภัย รวยจากการถือหุ้น 10 บจ. มูลค่า 2.7 หมื่นล้าน

วิริยะประกันภัย

วิริยะประกันภัย รวยจากการถือหุ้น 10 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย มูลค่าสูงกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท พอร์ตใหญ่สุด BDMS-SIRI-XPG ครอบคลุมธุรกิจโรงพยาบาล-อสังหาฯ-สินทรัพย์ดิจิทัล-เทคโนโลยี-สื่อ

วันที่ 23 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รู้หรือไม่ว่าบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจประกันวินาศภัยที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 75 ปี โดยมีขนาดเบี้ยประกันภัยรับรวมสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท ครองมาร์เก็ตแชร์อับดับ 1 ในตลาดประกันวินาศภัยไทยในปัจจุบัน โดยมีพอร์ตใหญ่มาจากการรับประกันภัยรถยนต์

แม้ว่าจะยังไม่ได้เป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย แต่ปัจจุบันมีการใส่เงินลงทุนเพื่อถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 10 บริษัท ประกอบด้วย 1.บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) จำนวน 739.71 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.65% มูลค่า 22,191 ล้านบาท 2.บมจ.แสนสิริ (SIRI) จำนวน 963.27 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.47% มูลค่า 1,704 ล้านบาท

3.บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) จำนวน 842 ล้านหุ้น คิดเป็น 9.23% มูลค่า 1,230 ล้านบาท 4.บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา (TQM) จำนวน 17.32 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.89% มูลค่า 705 ล้านบาท

5.บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) จำนวน 715 ล้านหุ้น คิดเป็น 7.50% มูลค่า 293 ล้านบาท 6.กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินการบินกรุงเทพ (BAREIT) จำนวน 20 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.94% มูลค่า 220 ล้านบาท

7.บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) จำนวน 133.66 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.17% มูลค่า 139 ล้านบาท 8.บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) จำนวน 9.31 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.64% มูลค่า 64 ล้านบาท

9.บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) จำนวน 5.58 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.58% มูลค่า 212 ล้านบาท และ 10.บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) จำนวน 11.26 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.47% มูลค่า 90 ล้านบาท

ทั้งนี้หากบริษัทวิริยะประกันภัยขายหุ้นวันนี้ จะมีมูลค่าผลตอบแทนจากเงินลงทุนสูงถึง 2.7 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการคำนวณจากราคาหุ้นปิดตลาดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2566 โดยหุ้น BDMS อยู่ที่ราคา 30 บาท, หุ้น SIRI อยู่ที่ราคา 1.77 บาท, หุ้น XPG อยู่ที่ราคา 1.46 บาท, หุ้น TQM อยู่ที่ราคา 40.75 บาท,

หุ้น PF อยู่ที่ราคา 0.41 บาท, หุ้น BAREIT อยู่ที่ราคา 11 บาท, หุ้น THRE อยู่ที่ราคา 1.04  บาท, หุ้น BBGI อยู่ที่ราคา 6.95 บาท, หุ้น IIG อยู่ที่ราคา 38 บาท และหุ้น ONEE อยู่ที่ราคา 8.05 บาท

โดยงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 พบว่า บริษัทวิริยะประกันภัย มีกำไรจากการลงทุน 5,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 854% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน

สำหรับ วิริยะประกันภัย เป็นบริษัทประกันภัยอันดับ 1 ตั้งแต่ปี 2530 และต่อเนื่องยาวนานถึงปัจจุบันส่งผ่านการบริหารจากรุ่นบุกเบิก โดย “เล็ก วิริยะพันธุ์” ผู้ก่อตั้งมาสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 โดย “สุวพร ทองธิว” (บุตรสาว) ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย


และต่อมาได้ส่งไม้ต่อสู่รุ่นที่ 3 ให้กับลูกชาย “สุวพร ทองธิว” โดย “อมร ทองธิว” ในวัย 39 ปี เข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บมจ.วิริยะประกันภัย โดยมีผลตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา