อีสท์ วอเตอร์ ปัดรื้อถอนอาคาร-ขนทรัพย์สินออกจากพื้นที่ 2 โครงการท่อส่งน้ำ

อีสท์ วอเตอร์

อีสท์ วอเตอร์ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีทำหนังสือโต้แย้งธนารักษ์บอกเลิกการเช่า/บริหารท่อส่งน้ำ 2 โครงการ พร้อมให้รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้าง-ขนย้ายทรัพย์สิน ออกจากพื้นที่ ระบุปม “กระบวนการคัดเลือกเอกชน-เซ็นสัญญากับเอกชนรายใหม่” ยังเป็นคดีอยู่ในชั้นศาลปกครอง

วันที่ 22 มีนาคม 2566 นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอร์เตอร์ (EASTW) ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ตามที่ปรากฎในรายงานข่าวสื่อสาธารณะว่า

บริษัท ได้รับหนังสือแจ้งการบอกเลิกการเช่า/บริหาร โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล – หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ – แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) จากกรมธนารักษ์ มีใจความขอให้บริษัทฯ รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากพื้นที่ และส่งมอบพื้นที่และทรัพย์สินโครงการท่อส่งน้ำทั้งสองให้แล้วเสร็จแก่กรมธนารักษ์ภายในวันที่ 11 เมษายน 2566 นั้น

บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 บริษัทฯ ได้รับหนังสือบอกเลิกการเช่า/บริหารโครงการท่อส่งน้ำข้างต้นจากกรมธนารักษ์ และบริษัทฯ ได้ยื่นหนังสือถึงกรมธนารักษ์ เพื่อชี้แจงและโต้แย้งความไม่ถูกต้องของข้อเท็จจริงและเหตุผลที่กรมธนารักษ์ใช้บอกเลิกการเช่า/บริหารดังกล่าว

เนื่องจากการดำเนินการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกของคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเพื่อบริหารและดำเนินกิจกรระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และกรมธนารักษ์ มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายเกิดขึ้น ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง

และการทำสัญญาของกรมธนารักษ์กับเอกชนที่ได้รับการคัดเลือกเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ก็มีปัญหาว่าเป็นการทำสัญญาที่ขัดต่อมติคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่กำหนดเงื่อนไขให้กรมธนารักษ์ต้องดำเนินการตามข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดให้เสร็จสิ้นครบถ้วนก่อนทำสัญญาหรือไม่ อันเป็นปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของกรมธนารักษ์ในการทำสัญญาและที่มาของกรมธนารักษ์ในการออกคำสั่งทางปกครองให้บริษัทฯ ส่งคืนทรัพย์สิน ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองอีกเช่นกัน

ประกอบกับที่ผ่านมา กรมธนารักษ์เองได้ตกลงเป็นฝ่ายจัดทำร่างรายการทรัพย์สินให้บริษัทฯ ตรวจสอบ และบริษัทฯ เองก็ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับกรมธนารักษ์ในการเจรจาหาข้อยุติ เรื่องการส่งมอบทรัพย์สิน

โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำและให้การบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ไร้รอยต่อ มาโดยตลอด ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนี้ และการแจ้งขอสงวนสิทธิดำเนินการคดีในศาลปกครองของบริษัทฯ จึงมิใช่เหตุผลโดยชอบที่กรมธนรักษ์จะนำมาใช้อ้างตามกฎหมายได้

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการของกรมธนารักษ์ได้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย มีความเป็นธรรม และไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำเกิดขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ชี้แจงผลกระทบที่จะเกิดกับผู้ใช้น้ำ รวมทั้งข้อเสนอแนะในการวางแผนและกำหนดแนวทางขั้นตอนการเจรจาหาข้อยุติเรื่องส่งมอบให้กรมธนารักษ์พิจารณาด้วย เพื่อให้การส่งมอบโครงการท่อส่งน้ำไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำและการบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำได้ดำเนินการไปได้อย่างต่อเนื่องและถูกต้องตามกฎหมาย


โดยบริษัทฯ ได้แจ้งกรมธนารักษ์ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายหากมีการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเกิดขึ้นและทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย