บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.5 ล้านคน ได้สิทธิลอตแรก รับเงินกี่บาท เช็กที่นี่

คลังเผยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ยืนยันตัวตนสำเร็จกว่า 12.5 ล้านคน เริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 เม.ย.นี้ พร้อมเปิดรายละเอียดสวัสดิการที่จะได้รับผ่านบัตร

วันที่ 28 มีนาคม 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนแล้ว

โดยข้อมูล ณ วันที่ 26 มีนาคม 2566 เวลา 23.00 น. พบว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จจำนวนทั้งสิ้น 12,565,853 ราย (ร้อยละ 86.09 ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมดจำนวน 14,596,820 ราย)

ซึ่งผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จกลุ่มดังกล่าวจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ในวันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชน

ส่วนผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตน และผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังยืนยันตัวตนไม่สำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,030,967 ราย ยังคงสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้ตามวันเวลาที่หน่วยงานกำหนด และสามารถเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด

ทั้งนี้ สำหรับสวัสดิการที่จะได้รับ ประกอบด้วย

1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดจำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน

2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (เดิมจะได้ 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน แต่ ครม. เมื่อวันที่ 14 มี.ค. เพิ่มให้อีก 20 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย. 2566)

3.วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะจำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่

  • รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
  • รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
  • รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
  • รถไฟ
  • รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
  • รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน
  • รถสองแถวรับจ้าง
  • เรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

4.มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตร) ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

5.มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรที่ได้รับสิทธิ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีบัตรที่ได้รับสิทธิมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่