บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ได้อะไรเพิ่มบ้าง ดูเลย !

บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

คลังเตรียมจ่ายเงินสวัสดิการให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ลอตแรก 1 เม.ย.นี้ เผยรายละเอียดสวัสดิการบางส่วนปรับเพิ่มจากเดิม บางมาตรการอำนวยสะดวกมากขึ้น

วันที่ 30 มีนาคม 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 จำนวน 12.5 ล้านราย จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ ในวันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป

ซึ่งผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ กลุ่มดังกล่าวจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ ดังนี้

1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าฯ และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น.

(บัตรเดิม จะได้ 200-300 บาทต่อคนต่อเดือน)

2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือนตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น. (หากรวมวงเงินของกระทรวงพาณิชย์ด้วย จะเป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2566)

(บัตรเดิม จะได้ 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน)

3.วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่

  • รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
  • รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
  • รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
  • รถไฟ

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตร และจะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป

  • รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
  • รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน
  • รถสองแถวรับจ้าง
  • เรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

(บัตรเดิมจะได้ 500 บาทต่อคนต่อเดือน (1) รถ ขสมก. ระบบ e-Ticket (2) รถไฟฟ้า (3) รถ บขส. (4) รถไฟ)

4.มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตร ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด

(ของเดิมผู้ถือบัตรต้องสำรองจ่ายไปก่อน)

5.มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตร ที่ได้รับสิทธิยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีบัตร ที่ได้รับสิทธิมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตร ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

(ของเดิมผู้ถือบัตรต้องสำรองจ่ายไปก่อน)

สำหรับมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา รอบใหม่นี้ กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะชำระค่าบริการที่ผู้มีบัตร ที่ได้รับสิทธิใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่

  • สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง
  • สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  • กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
  • สำนักงานการประปานครหลวง
  • สำนักงานการประปาภูมิภาค

โดยผู้มีบัตร ที่ได้รับสิทธิไม่จำเป็นต้องสำรองเงินในการชำระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาแต่อย่างใด โดยผู้มีบัตร ที่ได้รับสิทธิที่ประสงค์รับสิทธิในมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาจะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าวก่อนการเริ่มใช้สิทธิ

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th