คอลัมน์ : เช็กกระแสหุ้น
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (27-31 มี.ค.) ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุด
โดย “กิจพณ ไพรไพศาลกิจ” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกขึ้นมาได้ค่อนข้างดีประมาณ 20 จุด กลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,600 จุด เนื่องจากปัญหาธนาคารในสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์ที่รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลลงไปมาก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อไทยโดยตรง ทำให้ตลาดหุ้นไทยแม้จะปรับตัวลงจากความตื่นตระหนก แต่ก็ปรับตัวกลับขึ้นมาได้
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยว รวมถึงกำลังซื้อที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนดัชนี ส่วนการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ก็เป็นไปตามที่คาด แต่มีการส่งสัญญาณว่า อาจจะยังไม่หยุดปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นตัวกดดันหุ้นในกลุ่มที่มีต้นทุนสูง
มองไปในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ( 3-7 เม.ย.) “กิจพณ” ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทย (SET index) น่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,597-1,620 จุด โดยตลาดน่าจะมีบรรยากาศ (sentiment) ของการเก็งกำไรในเชิงบวก ซึ่งจะช่วยหนุนตลาด
ส่วนประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ คือการประกาศรายชื่อบริษัทที่จะผ่านเกณฑ์เข้าร่วมโครงการจัดหาไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ของทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่จะประกาศผลในวันที่ 5 เม.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกขึ้นได้ อย่างกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก แนะนำ CPALL, MAKRO และ BJC รวมถึงหุ้นน้ำตาลที่ในช่วงนี้ราคาน้ำตาลทรงตัวสูงและมีดีมานด์เข้าต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มนี้ค่อนข้างน่าสนใจ แนะนำ KSL, KBS, BRR และ KTIS ส่วนอีกกลุ่มจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากโครงการจัดหาไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ก็จะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น GUNKUL, BGRIM และ SUPER
