GABLE เทรดวันแรกราคาพุ่ง 7.30 บาท เหนือจอง 14.3%

บมจ.จีเอเบิล  เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “GABLE” ราคาอยู่ที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.91 บาท เหนือจอง 14.3% จากราคาไอพีโอที่ 6.39 บาท

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 บริษัท จีเอเบิล จำกัด เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “GABLE” ราคาอยู่ที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.91 บาท เหนือจอง 14.3% จากราคาไอพีโอที่ 6.39 บาท

โดย GABLE ดำเนินธุรกิจให้บริการโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลครบวงจรสำหรับองค์กรชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 33 ปี โดยมุ่งเน้นกลุ่มโซลูชั่นระดับองค์กร (Enterprise solution and Services) ที่มีความต้องการสูงในธุรกิจยุค Digital transformation เช่น Cyber Security, Cloud และ Data Center, Data Analytic และการบริหารจัดการข้อมูล เป็นต้น และเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ทั้งนี้มีทุนชำระแล้ว 700 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 525 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO175 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน  70 ล้านหุ้น บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 61.25 ล้านหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย 25.60 ล้านหุ้น และผู้มีอุปการคุณของบริษัท 18.15 ล้านหุ้น ในวันที่ 2628 เมษายน 2566 ราคาหุ้นละ 6.39 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,118.25 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,473 ล้านบาท

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ทั้งในเชิงธุรกิจและการขับเคลื่อนสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพและธุรกิจที่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม รองรับการเติบโตของกลุ่มบริษัท รวมถึงจะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

สำหรับ GABLE มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มลิ่วเจริญ ถือหุ้น 21.58% 2) กลุ่มเอื้อวัฒนสกุล ถือหุ้น 20.04% และ 3) กลุ่มชันซื่อ ถือหุ้น 16.31% ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรเงินสำรองตามกฎหมาย