หุ้นไทยแกว่งตัว 1,560-1,580 จุด ดัชนีสลับอ่อนตัว กังวลปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ-น้ำมันร่วง

หุ้นไทย

บล.กรุงศรีพัฒนสินฯ ประเมินภาพตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว 1,560-1,580 จุด แม้ได้ปัจจัยบวกจากเงินเฟ้อสหรัฐเดือน เม.ย. ต่ำกว่าคาด มีแรงซื้อกลุ่ม domestic play รับธีมเลือกตั้งไทย แต่จะสลับอ่อนตัว หลังราคาน้ำมันดิบร่วง กังวลความไม่แน่นอนปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี พัฒนสิน รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่า วานนี้ดัชนี SET Index เพิ่มขึ้น 4.90 จุด (+0.31%) ปิดที่ระดับ 1,570 จุด นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ คาดหวังเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว ส่วนคุณภาพสินทรัพย์ คาดว่าจะทยอยดีขึ้น

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET แกว่งตัว 1,560-1,580 จุด แม้ดัชนีจะได้ปัจจัยบวกจากเงินเฟ้อ CPI สหรัฐเดือน เม.ย.ต่ำกว่าคาดโดย +4.9% YOY จึงคาดว่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.

อีกทั้งแรงซื้อกลุ่ม domestic play ธีมการเลือกตั้งไทยช่วยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงและความไม่แน่นอนปัญหาเพดานหนี้สหรัฐจะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว

ประเด็นสำคัญวันนี้

1. เงินเฟ้อสหรัฐลดลงต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ของสหรัฐเดือน เม.ย. ลดลงสู่ระดับ 4.9% ต่ำกว่าเดือน มี.ค. และต่ำกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 5% (นับเป็นการลดลงต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อนโควิด-19) ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ลดลงเป็น 5.5% จาก 5.6% ในเดือน มี.ค.

2. น้ำมันดิบปิดลบกังวลดีมานด์ชะลอตัวหลังจีนนำเข้าลดลงและสต๊อกน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 72.56 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ ตลาดกังวลดีมานด์ชะลอตัวหลังการน้ำเข้าน้ำมันดิบจากจีนลดลง ขณะที่ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล

3. ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐมีกำหนดเจรจากันอีกครั้งในวันศุกร์นี้ โดยปัญหาเพดานหนี้ยังเป็นปัจจัยที่ตลาดให้ความสนใจและเป็นปัจจัยลบที่กดดันดัชนีดาวโจนส์หลังจากการเจรจาระหว่างโจ ไบเดน และประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมายังไม่สำเร็จ

โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีนัดหารือกันอีกครั้งในศุกร์ที่จะถึงนี้ (กระทรวงการคลังสหรัฐคาดการณ์สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ 1 มิ.ย. 2566 หากเพิ่มเพดานหนี้ไม่สำเร็จ)

กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy

แนะนำหุ้นเด่นวันนี้

CPALL (ปิด 65.75 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72.75 บาท) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 ดีเกินคาดที่ 4,123 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% QOQ และ 19% YOY และสูงกว่าที่ BB Consensus คาดไว้ที่ 10% แนวโน้มไตรมาส 2/2566 โตต่อจากการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์และเลือกตั้ง


SCB (ปิด 107 บาท ซื้อ/เป้า 160 บาท) แนวโน้มไตรมาส 2 ปีนี้ ยังโตต่อเนื่องจาก NIM ที่เพิ่มขึ้นตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ ส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ คาดว่าจะปรับลงสู่ระดับปกติที่ระดับ 7-8 พันล้านบาทจาก 9.9 พันล้านบาทในไตรมาส 1/2566