
บล.กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,525-1,545 จุด ตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น และคาดนักลงทุนจะชะลอซื้อขายเพื่อติดตามผลโหวตเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ SAWAD, ERW
วันที่ 1 มิถุนายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี ประเมินดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) แกว่งตัว 1,525-1,545 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นอีกทั้งคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามผลโหวตเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ นอกจากนี้เม็ดเงินลงทุน (Fund flow) ต่างชาติที่ขายต่อเนื่องและราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงหลัง PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน พ.ค. หดตัวลงจะกดดันต่อกลุ่มพลังงานและทิศทางการลงทุน จึงแนะนำ Selective buy ต่อไป
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
- เช็กที่นี่ เงินอุดหนุนบุตร 600 บาท เดือนธันวาคม 2566 เงินเข้าวันไหน
- เปิดค่าตอบแทน “ผู้บริหาร” ยักษ์ บจ. BBL จ่ายพันล้านต่อปี ทิ้งห่างคู่แข่ง
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้
ดาวโจนส์ปรับตัวลงกังวลเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยจากตัวเลขตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง : ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 135 จุด (-0.41%) ปิดที่ระดับ 32,908 จุด ตลาดปรับโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ขึ้นเป็น 66.4% หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) เพิ่มขึ้น 358,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือน เม.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 9.375 ล้านตำแหน่ง
แบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และคงคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าตามเดิม : คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉัณฑ์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2% (ทิศทางดอกเบี้ยอนาคตขึ้นอยู่กับข้อมูลและปัจจัยแวดล้อม หรือ data dependent) ส่วนมุมมองเศรษฐกิจแบงก์ชาติคงคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าตามเดิมที่ระดับ 3.6% และ 3.8% ตามลำดับ
ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเดือน เม.ย. พลิกเป็นขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน : โดยไทยมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน เม.ย. ที่ 476 ล้านเทียบ เทียบกับเดือน มี.ค. เกินดุลที่ 4,779 ล้านเหรียญ เป็นผลจากไทยมียอดเกินดุลการค้าลดลง ขณะที่ดุลบริการและเงินโอนพลิกเป็นขาดดุล (ต่างชาติโอนเงินกลับหลังได้รับเงินปันผล และรายรับจากท่องเที่ยวลดลงเพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มระยะใกล้ (Short haul)
บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นเด่นวันนี้
– SAWAD (ปิด 55.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 61 บาท) แรงกดดันจากดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุด ประชุม กนง.วานนี้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดแต่ในมุมมองของเราคาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายเป็นบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์
– ERW (ปิด 4.14 ซื้อ/เป้า 5.80) ราคาหุ้นปรับลงกังวลงบฯไตรมาส 2/66 ชะลอตัวจาก low season แต่หากมองในเชิงโมเมนตัมคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วและจะเร่งขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ มิ.ย. จากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้กับจีน